ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง
และการดำเนินงานอื่นของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ พ.ศ. ๒๕๖๕

โดยที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
กำหนดให้คณะกรรมการ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะก็ได้
ตามความเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องหรือตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเห็นสมควร
โดยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และการดำเนินงานอื่น
ของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 16 (๔) และ มาตรา 71 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เรื่อง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง
และการดำเนินงานอื่นของคณะกรรมการ ผู้เชี่ยวชาญ พ.ศ. ๒๕๖๕”

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญคณะหนึ่ง
หรือหลายคณะ ตามความเหมาะสมของลักษณะงานหรือตามความเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่อง โดยคณะหนึ่ง
ประกอบด้วยประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหนึ่งคน และกรรมการผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยกว่าสี่คน
ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความเชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย ด้านเทคโนโลยี ด้านสังคม หรือด้านอื่นตามที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเห็นสมควร

ข้อ ๔ ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญและกรรมการผู้เชี่ยวชาญต้องมีคุณสมบัติและไม่มี
ลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(๑) มีสัญชาติไทย

(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์

(๓) มีวุฒิการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป

(๔) มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์ต่อการ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(๕) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(๖) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(๗) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกจริงหรือไม่ เว้นแต่เป็นโทษ
สำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(๘) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
หรือจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

(๙) ไม่เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งตามกฎหมาย

(๑๐) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการ
หรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่
พรรคการเมือง

ข้อ ๕ ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญและกรรมการผู้เชี่ยวชาญมีวาระการดำรงตำแหน่ง
คราวละสี่ปี เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
หรือกรรมการผู้เชี่ยวชาญขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งพ้นจาก
ตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่าประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญและ
กรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่

ข้อ ๖ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามข้อ ๕ ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญและ
กรรมการผู้เชี่ยวชาญพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(๑) ตาย

(๒) ลาออก

(๓) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

(๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๔

(๕) คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ออก เพราะบกพร่องต่อหน้าที่
มีความประพฤติกรรมเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ

ในกรณีที่ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการผู้เชี่ยวชาญพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ
และคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแต่งตั้งประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการ
ผู้เชี่ยวชาญแทนตำแหน่งที่ว่างนั้น ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นดำรงตำแหน่งได้เท่ากับ
วาระที่เหลือของประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งตนแทน
ในกรณีที่ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการผู้เชี่ยวชาญพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ
ให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วยกรรมการผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเท่าที่มีอยู่จนกว่าจะมีการแต่งตั้ง
ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามวรรคสอง และในกรณีที่ประธานกรรมการ
ผู้เชี่ยวชาญพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้กรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เหลือเลือกกรรมการผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง
ทำหน้าที่ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญเป็นการชั่วคราว

ข้อ ๗ การประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ต้องมีกรรมการผู้เชี่ยวชาญมาประชุมไม่น้อยกว่า
กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม
ให้ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญเป็นประธานในที่ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งมาประชุมเลือกกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
คนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก
กรรมการผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน
ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
การประชุมของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอาจกระทำผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้

ข้อ ๘ กรรมการผู้เชี่ยวชาญที่มีส่วนได้เสียในเรื่องที่ที่ประชุมพิจารณา ให้แจ้งการมีส่วนได้เสีย
ของตนให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญทราบล่วงหน้าก่อนการประชุม และห้ามมิให้ผู้นั้นเข้าร่วมประชุม
พิจารณาในเรื่องดังกล่าว

ข้อ ๙ ให้เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแต่งตั้งพนักงานของสำนักงาน
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเลขานุการของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญแต่ละคณะ
และอาจแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการได้ไม่เกินสองคน

ข้อ ๑๐ ในกรณีที่มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญมากกว่าหนึ่งคณะ
ให้ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีอาวุโสที่สุดเป็นประธานในที่ประชุม
และต้องมีกรรมการผู้เชี่ยวชาญ มาประชุมไม่น้อยกว่าหกคน
โดยต้องเป็นกรรมการผู้เชี่ยวชาญจากทุกคณะที่ได้เชิญประชุม จึงจะเป็นองค์ประชุม

ข้อ ๑๑ คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอาจมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตามที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญมอบหมายได้

ข้อ ๑๒ ในการดำเนินการของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ นอกจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้
ให้นำกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๑๓ ให้ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕

เธียรชัย ณ นคร
ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เอกสารเพิ่มเติม PDF ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง
และการดำเนินงานอื่นของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ พ.ศ. ๒๕๖๕