ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
พ.ศ. ๒๕๖๕
เพื่อให้การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
มีความชัดเจนและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามความใน
มาตรา 16(๔) และ
มาตรา 76 วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
พ.ศ. ๒๕๖๕
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ข้อ ๔ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่ง
ไม่ต่ำกว่าข้าราชการพลเรือน ระดับปฏิบัติการหรือเทียบเท่า
(๒) สำเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่าระดับปริญญาตรี
(๓) ผ่านการอบรมทางด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ
(๔) มีคุณสมบัติอื่นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
ก. ปฏิบัติงานหรือเคยปฏิบัติงานที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ไม่ น้อยกว่าสองปี
ข. สำเร็จการศึกษาตาม (๒) ในระดับปริญญาตรี และมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อ
การปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนับแต่สำเร็จการศึกษา
ดังกล่าวไม่น้อยกว่าสี่ปี
ค. สำเร็จการศึกษาตาม (๒) ในระดับปริญญาโท หรือสอบไล่ได้เป็นบัณฑิตตาม
หลักสูตรของวิชาชีพ และมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วย
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนับแต่สำเร็จการศึกษาดังกล่าวไม่น้อยกว่าสามปี
ง. สำเร็จการศึกษาตาม (๒) ในระดับปริญญาเอก หรือมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์
ต่อการปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นับแต่สำเร็จการศึกษาดังกล่าวไม่น้อยกว่าสองปี
จ. เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่น้อยกว่าสองปี
ข้อ ๕ ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการสืบสวนและสอบสวน
การกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องมีบุคลากรซึ่งมีความรู้
ความชำนาญ หรือประสบการณ์สูง เพื่อดำเนินการสืบสวนและสอบสวนการกระทำผิดเช่นว่านั้น
หรือเป็นบุคลากรในสาขาที่ขาดแคลน คณะกรรมการอาจยกเว้นคุณสมบัติตามข้อ ๔
ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนสำหรับการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลใดเป็นการเฉพาะก็ได้
ข้อ ๖ การแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ให้แต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติ
ตามข้อ ๔ หรือข้อ ๕ โดยบุคคลดังกล่าวต้องผ่านการประเมินความรู้ความสามารถหรือทดสอบ
ตามหลักสูตรและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
การแต่งตั้งบุคคลใดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่
ตามวาระที่คณะกรรมการกำหนดแต่ไม่เกินคราวละสี่ปี และให้ประกาศรายชื่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๗ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นบุคคลล้มละลาย บุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
(๒) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น
ผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง
ที่ปรึกษา พรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(๓) เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งให้พักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
(๔) ถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ
เพราะทำผิดวินัย หรือถูกให้ออกจากการเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียบกพร่อง
หรือไม่สุจริตต่อหน้าที่หรือหย่อนความสามารถ
(๕) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษ สำหรับความผิด
ที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๖) ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ
หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ข้อ ๘ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามข้อ ๖
พนักงานเจ้าหน้าที่พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบัติตามข้อ ๔ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๗
(๔) รัฐมนตรีให้ออกโดยข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พ้นจากตำแหน่ง ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศรายชื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๙ ในระหว่างสองปีแรกนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ มิให้นำความในข้อ ๔ (๓) และ
(๔) และข้อ ๖ มาใช้บังคับกับการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศนี้
ข้อ ๑๐ ให้ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
เธียรชัย ณ นคร
ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล