ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการให้บริการระบบเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) ระหว่างผู้ใช้บริการที่จะเข้าใช้บริการระบบนี้กับผู้รับบริการ โดยทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. คำนิยาม
“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตลอดจนกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้รับหรือล่วงรู้จากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการหรือปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความรวมถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย เก็บรักษา ลบ ทำลาย หรือการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ใช้บริการ“ หมายความถึง ผู้ใช้บริการที่อาจจะเป็นนิติบุคคลหรือไม่เป็นนิติบุคคล
“บุคลากร“ หมายความถึง กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ของผู้ใช้บริการที่อาจจะเป็นนิติบุคคลหรือไม่เป็นนิติบุคคล
กรณีที่ข้อตกลงฉบับนี้ไม่ได้กำหนดไว้โดยเฉพาะ ให้คำนิยามเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
ข้อ 2. วัตถุประสงค์
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้เข้าทำสัญญาการให้บริการระบบเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) โดยผู้ให้บริการให้บริการระบบ และผู้ใช้บริการจะดำเนินการรับผลการประเมินการเรียนรู้ของบุคลากรของผู้ใช้บริการ
โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแลกเปลี่ยน และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลกันตามขอบเขตที่กำหนดไว้ ดังนี้
วัตถุประสงค์: เพื่อการแจ้งผลการประเมินการประเมินการเรียนรู้ของบุคลากรของผู้ใช้บริการและการบริหารจัดการด้านการอบรมของผู้ใช้บริการ
ข้อมูลส่วนบุคคล: ข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อ นามสกุล) ข้อมูลการติดต่อ (เช่น อีเมล เบอร์โทร) ข้อมูลบัญชี (เช่น อีเมล) ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ (เช่น ผลการเรียนรู้)
ประเภทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล: บุคลากรของผู้ใช้บริการ
ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ผู้ให้บริการจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรผู้ใช้บริการ ได้แก่ ข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อ สกุล) ข้อมูลการติดต่อ (เช่น อีเมล เบอร์โทร) ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการลงทะเบียนสมัครใช้งานระบบ
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่ประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมีฐานกฎหมายที่อนุญาตเท่านั้น โดยในการโอนข้อมูลนั้น คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดด้วย
ข้อ 3. หน้าที่
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายรับรองและยืนยันว่า ก่อนการโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่คู่สัญญาอีกฝ่าย ได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือมีฐานกฎหมายหรืออำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายให้สามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงกันตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายรับรองและยืนยันว่าจะใช้มาตรการเชิงเทคนิค มาตรการเชิงบริหารจัดการ ตลอดจนมาตรการอื่นใดที่เหมาะสมทั้งปวงเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตามที่กำหนดโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบทันที หากเกิดหรือสงสัยว่าจะเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดของลักษณะและผลที่อาจเกิดขึ้นของการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว มาตรการที่ควรนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา หรือเพื่อลดผลกระทบหรือบรรเทาความเสียหายที่อาจจะเกิดจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และข้อมูลอื่น ๆ ตามที่คู่สัญญาอีกฝ่ายร้องขอ และดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงให้ความร่วมมือกับคู่สัญญาอีกฝ่าย และตกลงปฏิบัติตามมาตรการที่คู่สัญญาอีกฝ่าย อาจกำหนดเพิ่มเติมในการตรวจสอบเพื่อการจัดการหรือการป้องกันและเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งการร้องเรียน การเรียกร้อง การกล่าวหา ความเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน และ/หรือความรับผิดใด ๆ (ไม่ว่าในทางแพ่ง และ/หรือ อาญา) ที่อาจเกิดขึ้นภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมมือกันและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ตามที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายอาจต้องการโดยเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนหรือคำขอใด ๆ จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือการตรวจสอบหรือการสอบสวนโดยหน่วยงานที่มีอำนาจโดยเกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายประมวลผลตามสัญญานี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนได้อย่างเพียงพอในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายอาจใช้ผู้ประมวลผลข้อมูลรายอื่น ๆ เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนและได้รับตามสัญญา โดยคู่สัญญาฝ่ายที่ใช้ผู้ประมวลผลรายอื่น ๆ รับรองและยืนยันต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายรับทราบและตกลงว่าถ้าจำเป็นต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ เพื่อให้คู่สัญญาฝ่ายที่รับข้อมูลยังคงประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ และเพื่อให้สอดคล้องกับการตีความกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะปรึกษาหารือและตกลงกันโดยสุจริตเกี่ยวกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จำเป็นในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้
ข้อ 4. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง
กรณีไม่มีข้อกำหนดตามข้อตกลงนี้ระบุเป็นอย่างอื่น การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงฉบับนี้ จะต้องทำขึ้นเป็นหนังสือและลงนามโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย จึงจะมีผลใช้บังคับต่อกันได้
ข้อ 5. ความสมบูรณ์ของสัญญา
ในกรณีที่ข้อตกลงใดข้อตกลงหนึ่งภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ เป็นโมฆะหรือไม่มีผลผูกพัน ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันว่า ข้อตกลงอื่นภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ที่ไม่เป็นโมฆะหรือมีผลผูกพัน ย่อมมีผลบังคับใช้ระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อไป และทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันแก้ไขข้อตกลงที่มีผลเป็นโมฆะหรือไม่มีผลผูกพันให้มีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย โดยให้มีผลในทางการค้าที่ใกล้เคียงกับข้อตกลงที่มีผลเป็นโมฆะหรือไม่มีผลผูกพันนั้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ข้อ 6. ข้อตกลงอื่น ๆ
นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกำหนด
ข้อตกลงฉบับนี้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาพิพากษา



