ทำไม Data Processor ถึงสำคัญ?
ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ไม่ได้มีเพียง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller – DC) เท่านั้นที่ถูกกำหนดหน้าที่ แต่ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor – DP) ก็มีความรับผิดชอบโดยตรงตามกฎหมายเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อองค์กรต่าง ๆ มักจ้างภายนอกให้มาดูแลข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Call Center หรือ Digital Agency
บทบาทและหน้าที่ของ Data Processor
กฎหมายกำหนดชัดใน มาตรา 40 ว่า DP ต้อง:
ทำงานตามคำสั่งของ DC เท่านั้น
จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย (เช่น Encryption, Access Control)
จัดทำ RoPA ของกิจกรรมที่ทำแทน DC
ห้ามนำข้อมูลไปใช้เพื่อประโยชน์ตนเอง
แจ้ง Data Breach ให้ DC โดยไม่ชักช้า
จัดการ Sub-Processor อย่างโปร่งใสและได้รับอนุมัติจาก DC
นอกจากนี้ หากเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย DP ต้องแต่งตั้ง DPO เช่นเดียวกับ DC โดยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ผู้ตรวจสอบ และเป็นจุดติดต่อกับหน่วยงานกำกับ
RoPA: จุดที่หลายองค์กรพลาด
แม้หลายบริษัทจะรู้ว่าต้องมี RoPA แต่ DP มักเข้าใจผิดว่า RoPA ต้องครอบคลุมทุกกิจกรรมในองค์กร ทั้งที่จริงแล้ว PDPA กำหนดให้ RoPA ของ DP ครอบคลุมเฉพาะ กิจกรรมที่ทำแทน DC เท่านั้น เช่น กิจกรรมที่รับข้อมูล, ประมวลผล และทำลายข้อมูลตามสัญญา
กรณีศึกษาและบทเรียนสำคัญ
หน่วยงานรัฐ + บริษัทผู้พัฒนาระบบ (DP) → ข้อมูลรั่ว 200,000 ราย | DC และ DP ถูกปรับ 153,120 บาท เท่ากัน
👉 บทเรียน: แม้ไม่มี DPA แต่ DP ไม่พ้นความรับผิดชอบโรงพยาบาลเอกชน + ธุรกิจครอบครัว (DP) → เวชระเบียนถูกใช้ห่อขนมโตเกียว | DC ถูกปรับ 1.2 ล้านบาท, DP ถูกปรับ 16,940 บาท
👉 บทเรียน: DC ต้องเลือกคู่ค้าอย่างรอบคอบ และ DP ต้องแจ้ง Data Breachบริษัท Art Toy + ผู้ให้บริการระบบจอง (DP) → ระบบถูกแฮก | DC ถูกปรับ 500,000 บาท แต่ DP ถูกปรับถึง 3 ล้านบาท
👉 บทเรียน: DP อาจถูกปรับหนักกว่า DC หากละเลยมาตรการและไม่เยียวยาผู้เสียหาย
DPA vs DSA
DPA (Data Processing Agreement): ใช้เมื่อ DC มอบหมายให้ DP ประมวลผลข้อมูลแทน
DSA (Data Sharing Agreement): ใช้เมื่อสององค์กร (ที่ต่างเป็น DC) แบ่งปันข้อมูลเพื่อประโยชน์ของตนเอง
สรุป: Accountability คือหัวใจ
กรณีศึกษาทั้งหมดสะท้อนชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเป็น DC หรือ DP ต่างก็มี Accountability – ความรับผิดชอบ ที่ต้องแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม การอ้างว่าไม่รู้หรือไม่มีสัญญาไม่ช่วยให้องค์กรพ้นผิด
องค์กรที่มีการจ้าง Vendor หรือทำงานกับคู่ค้าภายนอก ควร:
ตรวจสอบมาตรการของคู่ค้าอย่างละเอียด
ทำ RoPA อย่างถูกต้อง
แต่งตั้ง DPO เมื่อเข้าเงื่อนไข
สร้าง “Privacy Program” ที่ไม่ใช่แค่เอกสาร แต่สามารถปฏิบัติได้จริง









