ประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับแบบสอบถาม

PDPA Thailand สถาบันพัฒนาและทดสอบทักษะดิจิทัล (DDTI) บริษัท ดีบีซี กรุ๊ป จำกัด (DBC Group) และพันธมิตร ได้แก่ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย (SME Thai) สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย        สมาคมผู้ดูแลเว็บและสื่อออนไลน์ไทย สมาคมการค้าดิจิทัลไทย และสมาคมผู้ตรวจสอบและให้คำปรึกษาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไทย (TPDPA) รวมเรียกว่า “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้  
  1. คำนิยาม
คำศัพท์ ความหมาย
บุคคล บุคคลธรรมดาที่ยังไม่ถึงแก่กรรม
ประมวลผล กระบวนการดำเนินการใด ๆ หรือชุดของการดำเนินการที่กระทำกับข้อมูลส่วนบุคคล จะโดยวิธีการแบบอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดการอย่างเป็นระบบ การจัดโครงสร้าง การประยุกต์ การแก้ไข การกู้คืน การให้คำปรึกษา การใช้ การเปิดเผยด้วยการส่ง การเปิดเผยด้วยการเผยแพร่หรือเข้าถึงได้โดยวิธีอื่นใด การรวมข้อมูล การจำกัด การลบหรือทำลาย เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นระบุไปถึง แต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล (Ownership) หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเอง โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงบุคคลธรรมดาเท่านั้นและไม่รวมถึง “นิติบุคคล” (Juridical Person) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
คำจำกัดความอื่น ๆ ในกรณีที่ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ไม่ได้นิยามไว้ คำนิยามให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
 
  1. ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้กับใคร
2.1 บุคคลธรรมดา เช่น บุคคลที่สนใจ ผู้ที่จะเข้าร่วม ผู้ที่เคยเข้าร่วม หรือผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจจะปรากฏในรูปแบบการประชุม การเสวนา การฝึกอบรม การจัดงานสัมมนา การถ่ายทอดสด การสัมภาษณ์ การพบปะสังสรรค์ แบบสอบถาม หรือรูปแบบอื่น ๆ 2.2 บุคคลธรรมดา เช่น พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น บุคคลผู้มีอำนาจ กรรมการ ผู้ติดต่อประสานงาน บุคคลอ้างอิง ผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน บุคคลธรรมดาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเข้าร่วม เคยเข้าร่วม หรือเข้าร่วมการฝึกอบรม การสัมมนา แบบสอบถาม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบุคคลในข้อ 2.1 – 2.2 ต่อไปจะเรียกว่า ท่าน หรือ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลประมวลผล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ โดยตรงจากท่านหรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ โดยอาจแบ่งประเภทข้อมูลส่วนบุคคลได้ดังนี้ 3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ ชื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา รูปถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น 3.2 ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ทางทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่พักอาศัย ที่อยู่ทางธุรกิจ ที่อยู่ทางไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล ไลน์ไอดี หรือข้อมูลติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นต้น 3.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ออกโดยทางราชการ เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หนังสือรับรองผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (ที่ระบุรายชื่อกรรมการผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล) หรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน 3.4 ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร ประเภทบัญชีธนาคาร ข้อมูลพร้อมเพย์ รายละเอียดการจ่ายเงิน เป็นต้น 3.5 ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ เช่น ข้อมูล Cookie หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP Address) ล็อกไฟล์ (Log) วันที่และเวลาของการเข้าชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชม พฤติกรรมการใช้งาน เป็นต้น 3.6 ข้อมูลบุคคลที่สาม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูล ผู้ติดต่อฉุกเฉิน คู่สมรส บุตร เป็นต้น 3.7 ข้อมูลภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เช่น ข้อมูลภาพนิ่ง เสียง ภาพเคลื่อนไหวของท่าน ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจเก็บรวบรวมได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด กล้องถ่ายภาพเมื่อมีการเข้าถึงพื้นที่ในงานอบรมสัมมนาและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจัดขึ้น เป็นต้น 3.8 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลศาสนา ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะขอความยินยอมจากท่าน เว้นแต่มีฐานกฎหมายอื่นรองรับ   กรณีผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่นใดของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่ได้รับอาจจะมีข้อมูลศาสนาหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีนโยบายจัดเก็บจากท่าน ยกเว้นกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้รับความยินยอมหรือฐานอื่นตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจได้รับข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลผู้ประสานงาน เป็นต้น ซึ่งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้ข้อมูลเพื่อติดต่อในกรณีต่าง ๆ โปรดแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่บุคคลที่สามและขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวหากจำเป็น เว้นแต่ว่ามีข้อยกเว้นตามกฎหมายที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ต้องขอความยินยอม ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ (หมายถึง บุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กล่าวคือ อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสหรือกรณีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด) คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ ตามแต่กรณี หรือหากไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด ทั้งนี้ หากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทราบว่าได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลเหล่านี้ โดยมิได้รับความยินยอมและไม่ได้มีฐานทางกฎหมายอื่นรองรับ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันทีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทราบ เว้นแต่กรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านกระบวนการ ดังนี้ 4.1 ข้อมูลที่ท่านให้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในการสมัครการเข้าอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ ข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม ข้อมูลที่ใช้สมัครลงทะเบียนสร้างบัญชีการใช้งาน (Account) หรือ โปรไฟล์ (Profile) กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งทางช่องทางออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนังสือหรือการสนทนารวมถึงภาพและเสียง ตลอดจนข้อมูลที่ท่านให้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านการทำแบบสำรวจ การให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ เป็นต้น 4.2 ข้อมูลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจัดเก็บอัตโนมัติ เมื่อท่านเข้าใช้บริการผ่านระบบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” หรือเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะการทำงานเหมือนหรือคล้ายกัน 4.3 ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอกหรือข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้ เช่น กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) หน่วยงานหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือสมาคมหรือสมาพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับท่านหรือองค์กรของท่าน เป็นต้น 4.4 ข้อมูลที่ท่านร่วมทำกิจกรรมกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลากชิงโชค กิจกรรมการตอบแบบสอบถาม งานอีเว้นท์ หรืองานแข่งขันต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือคู่ค้าหรือพันธมิตรที่ร่วมทำกิจกรรมกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมอบหมายหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมดังกล่าว เป็นต้น  
  1. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น ๆผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจอาศัยหรืออ้าง 5.1 วัตถุประสงค์ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานความยินยอมในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใดได้ 5.2 วัตถุประสงค์ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลภายนอก (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยฐานการประมวลผลข้างต้นหรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  1. เพื่อดำเนินการติดต่อ สื่อสาร ลงทะเบียน หรือยืนยันตัวตนของท่านในการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  2. เพื่อแจ้งข้อมูลของท่านแก่พิธีกร ผู้ดำเนินรายการ วิทยากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องสำหรับการดำเนินการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  3. เพื่อบริหารจัดการบัญชีของท่านและเพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินและธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบสำคัญรับเงิน ใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ ดำเนินการและติดตามผลการให้บริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการตรวจสอบและการยืนยันและยกเลิกธุรกรรม
  4. เพื่อติดต่อและสื่อสาร ประสานงาน ให้บริการ การแจ้งเตือน ข่าวสาร และข้อมูลเกี่ยวกับบริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ท่าน และเพื่อประมวลผลและปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ใช้บริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน
  5. นำเสนอข้อมูลทางการตลาด การแจ้งเตือน ข่าวสาร และข้อมูลเกี่ยวกับบริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ท่าน และเพื่อประมวลผลและปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ใช้บริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน
  6. เพื่อจัดการในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ เช่น คำถาม คำขอ คำติชม ผลตอบรับ คำร้องเรียน ข้อเรียกร้อง ข้อพิพาท หรือการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย
  7. เพื่อให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาทางเทคนิค เช่น การแจ้งการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ท่าน การสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจของท่านต่อบริการหรือการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  8. เพื่อดำเนินการบันทึกภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวของการอบรมสัมมนาและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจัดขึ้น
  9. เพื่อการประชาสัมพันธ์ รายงานหรือเผยแพร่การการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในช่องทางต่าง ๆ ต่อสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มดิจิทัล เป็นต้น
  10. เพื่อการประชาสัมพันธ์ รายงานหรือเผยแพร่การอบรมสัมมนาและกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต่อท่านหรือองค์กรของท่าน รวมถึงแจ้งสิทธิประโยชน์ที่ท่านหรือองค์กรของท่านอาจจะสนใจ
  11. เพื่อดำเนินการอบรมสัมมนาและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบการฝึกอบรมทั่วไปและแบบอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือเพื่อออกใบรับรองการฝึกอบรมให้แก่ท่าน
  12. เพื่อการบริหารจัดการด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ทำแคมเปญทางการตลาด วิเคราะห์ พัฒนาบริการ และติดต่อลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำหรือนำเสนอบริการ รวมถึงการจัดการด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
  13. เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล(ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
  14. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น ๆ
  15. เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
  16. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การตอบสนองการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมายอื่น ๆ
  17. เพื่อการปฏิบัติตามนโยบายภายในและกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงข้อบังคับ ระเบียบ และแนวทางปฏิบัติต่าง ๆเช่น การขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด การประสานงาน การติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล ศาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสืบสวน การร้องเรียน การป้องกันอาชญากรรม การฉ้อโกง การปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
  18. เพื่อดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในวัตถุประสงค์เชิงสถิติ วัตถุประสงค์ต่อการออกแบบหลักสูตร วัตถุประสงค์ต่อการปรับปรุงการให้บริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  19. เพื่อการสร้างเครือข่ายเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งผลกระทบต่อท่าน กล่าวคือ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอหรือตามสัญญาได้ โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจไม่สามารถเสนอบริการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านได้ และท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส นอกจากนี้ ในบางกรณี การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามและอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง  
  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ท่านเองอาจตกอยู่ภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเช่นกัน ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกดังกล่าว เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย 6.1 บุคคลภายนอก ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจว่าจ้างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ตัวแทน หรือผู้รับจ้างในการให้บริการแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเหล่านั้น ดังต่อไปนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ ผู้ให้บริการด้านดิจิทัล ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า ผู้ให้บริการด้านตรวจสอบบัญชี ผู้ให้บริการด้านการอบรมสัมมนา ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวน์ ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สิน อาคาร สถานที่ ผู้ให้บริการโปรแกรมสำเร็จรูป ผู้ให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในเครือ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้สนใจจะซื้อกิจการ ผู้จัดการอบรมสัมมนาและกิจกรรมต่าง ๆ พิธีกร ผู้ดำเนินรายการ วิทยากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องสำหรับการการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 6.2 หน่วยงานรัฐ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานรัฐ ผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลอื่น ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัย เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน จัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต  
  1. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้
เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการโดยอัตโนมัติจากท่านผ่านการใช้คุกกี้ คุกกี้ คือ ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงกับคอมพิวเตอร์ของท่าน เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ และคุกกี้จะจัดเก็บหรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ของท่านและนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแสความนิยม (Trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ ติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ คุกกี้บางประเภทนั้น มีความจำเป็น (Necessary Cookie) เนื่องจากหากปราศจากคุกกี้ที่จำเป็นประเภทนี้แล้ว หน้าเว็บไซต์อาจจะไม่สามารถใช้การได้อย่างเหมาะสม และคุกกี้ประเภทอื่น ๆ จะทำให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถปรับปรุงประสบการณ์การเข้าใช้เว็บไซต์ของท่าน ปรับแต่งเนื้อหาตามความต้องการของท่าน และทำให้การท่องเว็บไซต์สะดวกมากขึ้น เนื่องจากคุกกี้จะจดจำชื่อผู้ใช้ (ในวิธีการที่ปลอดภัย) รวมทั้งจดจำการตั้งค่าทางภาษาของท่าน โดยปกติ เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านตั้งค่าว่า ท่านจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากท่านเลือกไม่ให้มีการติดตามโดยคุกกี้ หรือลบคุกกี้ออกไป อาจมีผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และหากไม่มีการเก็บคุกกี้ การใช้งานฟังก์ชันหรือเว็บไซต์บางส่วนอาจถูกจำกัด นอกจากนี้ บุคคลภายนอกอาจใช้คุกกี้ผ่านเว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของท่าน ตามประวัติกิจกรรมการของเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจเก็บรวบรวมประวัติของท่านหรือข้อมูลอื่นเพื่อให้ทราบว่าท่านเข้าถึงเว็บไซต์อย่างไร และเว็บเพจที่ท่านเข้าไปเยี่ยมชมหลังจากที่ออกจากเว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่รวมรวมผ่านระบบอัตโนมัติเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้บนเว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ท่านเองก็อาจตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวหรือนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นได้เช่นกัน ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย  
  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
8.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ หรือขอความยินยอมจากท่าน หรือตามที่กฎหมายอนุญาต 8.2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจเก็บข้อมูลของท่านไว้ในคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบคลาวด์ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม 8.3 กรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ  
  1. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
9.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์การประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือมาตรฐานอื่นใดอันเป็นที่ยอมรับทางธุรกิจ เช่น เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลา 10 ปีตามอายุความของกฎหมาย เป็นต้น 9.2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะยังดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวบุคคลไม่ได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น “การทำข้อมูลนิรนาม” (Anonymous Data) เป็นต้น 9.3 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เป็นการถาวร หรือโดยประการอื่นเพื่อกำจัดข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องปฏิบัติตามคำขอของท่านให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  
  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุปฏิเสธตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่าน อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางาน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ท่านพึงได้จากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม 10.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุปฏิเสธตามที่กฎหมายกำหนด 10.3 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และมีสิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น รวมถึงมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุปฏิเสธตามที่กฎหมายกำหนด 10.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุปฏิเสธตามที่กฎหมายกำหนด 10.5 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุปฏิเสธตามที่กฎหมายกำหนด 10.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้แทน 10.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด 10.8 สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 15 ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ในกรณีที่ท่านยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิและดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตอบรับเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอหรือปฏิเสธคำขอของท่านตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด  
  1. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าบุคลากรของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและบุคคลภายนอกที่ดำเนินการในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measures) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measures) รวมถึงมาตรการเชิงกายภาพ (Physical Measures) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลประมวลผลข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็นและเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด รวมถึงข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล  
  1. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
ในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มดิจิทัล และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ประกาศหรือนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ท่านศึกษาและปฏิบัติตามประกาศหรือนโยบายเกี่ยวกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นแยกต่างหากจากของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล  
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับ
ตามที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้เก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ไว้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะพนักงาน ลูกจ้าง ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้นหรือคณะกรรมการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือฐานะอื่น ๆ ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลใช้บังคับ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลขอแจ้งให้ท่านทราบว่าผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่ทางผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำการจัดเก็บและใช้อยู่ก่อนแล้วเท่านั้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บุคคลอื่น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากท่านหรือกฎหมายอนุญาตให้สามารถกระทำได้ หากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เดิมที่ได้มีการเก็บรวบรวมและใช้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะแจ้งให้ท่านทราบและจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามหลักการและวิธีการที่กฎหมายกำหนด โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามประกาศความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่ท่านให้ไว้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้ โดยติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดที่แจ้งในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้  
  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ กฎหมาย รวมถึงข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงพร้อมกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ  
  1. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการประมวลผล การใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อได้ตามรายละเอียดที่ปรากฏดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล [email protected]  
สถานที่ติดต่อ บริษัท ดีบีซี กรุ๊ป จำกัด สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 125/55 ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แยก 12 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 เบอร์ติดต่อ : 02-0290707
 
  1. กฎหมายที่ใช้บังคับ
ท่านรับทราบและตกลงให้ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น