PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

“เวชระเบียน” เอกสารทางการแพทย์ทุกประเภทที่ใช้บันทึก และเก็บรวบรวมประวัติของผู้ป่วยทั้งประวัติการรักษาที่เกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบัน การแพ้ยา ค่ารักษา ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตลอดจนข้อมูลส่วนตัว ครอบครัว และข้อมูลต่าง ๆ ที่มีการบันทึกซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย นับเป็นข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ตัวบุคคลได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ถือเป็น ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data) การจะเก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยได้ก็ต่อเมื่อ ได้รับความยินยอม จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ กฎหมาย PDPA 

ยกตัวอย่างกรณีที่เห็นกันบ่อยครั้ง คือการจัดเก็บ รวบรวมและเปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไทม์ไลน์ก่อนติดเชื้อ ซึ่งหากตอบแบบกำปั้นทุบดินก็นับว่าผิดกฎหมาย PDPA หากการกระทำดังกล่าวไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลตามสิทธิขั้นพื้นฐานของกฎหมายฉบับนี้  

ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า เวชระเบียน’ ถือเป็นข้อมูลสุขภาพ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หากบุคคลหรือนิติบุคคลนำไปเปิดเผยอาจนำไปสู่การละเมิดร้ายแรงทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ เช่น กรณีตัวอย่างการเปิดเผยไทม์ไลน์ หรือประวัติการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเหตุนี้สถานพยาบาล โรงงานพยาบาล หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขต่าง ๆ หากจะนำข้อมูลผู้ป่วยไปเก็บรวบรวม หรือประมวลผลจะต้องดำเนินการตาม ฐานความยินยอม ของเจ้าของข้อมูล เนื่องจากข้อมูลสุขภาพไม่อาจจะใช้ฐานสัญญาแบบทั่วไปได้ 

ขณะที่ฐานกฎหมาย และฐานประโยชน์โดยชอบในการปฏิบัติงามตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ยังดู ก้ำกึ่ง’ หากการดำเนินการเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยนำไปสู่การละเมิด ทั้งด้านร่างกาย อาทิ การเลือกปฏิบัติ หรือได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และด้านจิตใจ เช่น สร้างความเกลียดชัง เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือการกระทำใด ๆ ที่ส่งผลกระทบกระทบต่อเจ้าของข้อมูล อันเป็นผลมาจากการเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ หรือเวชระเบียนของผู้ป่วยและสถานพยาบาล หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข อาจจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการกระทำดังกล่าวได้เช่นกัน

โดยเรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ เช่น ประเทศในยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งบังคับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในสหภาพยุโรป หรือ GDPR (General Data Protection Regulation) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561

 

เปิดเผยข้อมูล เวชระเบียน ผู้ป่วยโควิด-19 อย่างไร จึงจะไม่ผิดกฎหมาย PDPA

เนื่องจาก พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นกฎหมายใหม่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล และยังถือเป็นกฎเกณฑ์ใหม่มาก ๆ สำหรับทุกองค์กร ขณะเดียวกันข้อกฎหมายในบางมาตรายังต้องอาศัยการวิเคราะห์และตีความ เนื่องจากยังต้องรอการออก กฎหมายลูก’ เพื่อบัญญัติข้อบังคับตามกฎหมายให้ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น ดังเช่นกรณีที่ระบุไว้ในข้างต้น ซึ่งการดำเนินการบางอย่าง สุ่มเสี่ยง’ ต่อการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยและอาจนำไปสู่การฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมได้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพ และโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565 ซึ่งออกมาเพื่อ กำจัดจุดอ่อน หรือความสุ่มเสี่ยงในการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อโรคติดต่อร้ายแรงอย่าง โควิด-19 โดยเฉพาะ 

โดยประกาศกระทรวงฯ ดังกล่าวได้มีการกำหนดให้มีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จากการเฝ้าระวัง การสอบสวนโรค การแจ้ง หรือการรายงาน ตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรคฯ เพื่อให้การเก็บหรือประมวลผลข้อมวลส่วนบุคคลจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมที่มีความจำเป็น เป็นประโยชน์แก่สังคม หรือสาธารณชนทั่วไป ทำให้สามารถเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยได้ใน 2 กรณี ดังนี้ 

1. ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ต้องทำโดยชัดแจ้งเป็นหนังสือหรือทำโดยผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่โดยสภาพไม่อาจขอความยินยอมด้วยวิธีการดังกล่าวได้ โดยรายละเอียดส่วนนี้ก็ไม่แตกต่างจากการขอความยินยอมตามกฎหมาย PDPA แต่จากประกาศกระทรวงฯ ได้มีส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมา คือ ให้ผู้ซึ่งมีหน้าที่สามารถขอความยินยอมด้วยวาจา หรือการสื่อความหมายในรูปแบบอื่นก็ได้ ถ้าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ร้องขอ และการร้องขอต้องกระทำภายใน 7 วัน นับแต่วันที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอม ผู้ซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติการตาม พ.ร.บ. ต้องยืนยันคำขอนั้นเป็นหนังสือให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยในหนังสือขอความยินยอมจะต้องประกอบด้วย 

  • วัน เดือน และปีที่ทำคำขอ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะขอเปิดเผย และวิธีการในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • วัตถุประสงค์ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
  • ชื่อและลายมือชื่อของผู้ซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.ที่ทำคำขอ

ทั้งนี้หากเจ้าของข้อมูลเป็นผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะต้องขอความยินยอมจากผู้ปกครองที่มีอำนาจกระทำแทน รวมทั้งกรณีบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ จะต้องขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำแทน หรือผู้สืบสันดานซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว 

2. ไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หากการดำเนินการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามกฎหมาย อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาศัย ฐานกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ ทำได้โดยมีเงื่อนไข ดังนี้  

–   เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยอาศัยอำนาจเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน 

–   เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อการป้องกันการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ

–   เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของประชาชน

–   เพื่อประโยชน์สาธารณะในการเฝ้าระวัง การป้องกัน และ การควบคุมโรค

–   มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยเนิ่นช้าไป จะก่อหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตหรือร่างกายของประชาชน หรือก่อหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อความปลอดภัยสาธารณะหรือประโยชน์สาธารณะ

โดยประกาศกระทรวงฯ ฉบับล่าสุดนี้ ให้อำนาจแก่อธิบดีกรมควบคุมโรครักษาการตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการ ให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และให้คำสั่งหรือข้อวินิจฉัย ของอธิบดีกรมควบคุมโรคถือเป็นที่สุด

ทั้งนี้ สิ่งที่ควรทราบอีกประการ คือประกาศดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อเอกชนที่ดำเนินธุรกิจด้านการแพทย์และสถานพยาบาล ดังนั้นกิจกรรมทางการค้า การบริการที่เป็นลักษณะหารายได้หรือแบ่งปันผลกำไร จึงไม่เข้าข่ายความจำเป็น หรือประโยชน์สาธารณะ สถานพยาบาลและรักษาของเอกชนจึงไม่สามารถนำประกาศกระทรวงฯ มาเป็นฐานโดยชอบธรรมเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผู้ป่วยโดยไม่ได้รับความยินยอมได้ เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามคำขอให้ดำเนินการโดยหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม