PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

สำหรับโทษปรับฐานละเมิดและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับองค์กรธุรกิจทั่วมุมโลกตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา หลังจากการบังคับใช้ General Data Protection Regulation (GDPR) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปว่าด้วยมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล และต้นแบบของกฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลที่ทั่วโลกนำไปปรับใช้ รวมถึง พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของประเทศไทยด้วย ทำให้ธุรกิจหลายแห่งถูกปรับหรือต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน กรณีละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีศึกษาตัวอย่าง เช่น Google, Meta (Facebook), British Airways, H&M, Amazon, Apple, Google, Netflix, Spotify และ Marriot Hotels องค์กรเหล่านี้ล้วนเคยเผชิญกับบทลงโทษ หรือบางกิจการก็กำลังเผชิญความกดดันจากระเบียบกฎหมายใหม่นี้อยู่ เนื่องจากระเบียบใหม่มุ่งเน้นการคุ้มครองสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค ทำให้การเก็บรวบรวม ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็น ‘ต้นทุนการจัดการ’ เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับที่ค่อนข้างรุนแรง โดยมีกรณีที่เคยเกิดขึ้น ดังนี้

 

  • Google โดนผู้ควบคุมข้อมูลของฝรั่งเศส (CNIL) ปรับเงิน 50 ล้านยูโร จากกรณีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากไม่ดำเนินการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนโฆษณา
  • กรณีอื้อฉาวของ Meta (Facebook) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน Whats App รั่วไหลกว่า 50 ล้านบัญชีในไอร์แลนด์ (Data Breach) แม้ล่าสุดจะโดนปรับเพียง 17 ล้านยูโร จากเดิมที่คาดว่าจะต้องถูกปรับเงินไม่น้อยกว่า 225 ล้านยูโร เนื่องจากไม่มีการคุ้มครองความเสี่ยยงของข้อมูลผู้ใช้ที่ดีเพียงพอ โดยตามระเบียบ GDPA มีโทษปรับสูงสุด 20 ล้านยูโร หรือคิดจากฐานร้อยละ 4 ของรายได้ทั่วโลก ซึ่งค่าปรับล่าสุดของ Meta ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนรายได้ แต่ในปัจจุบัน Meta ก็ยังคงวุ่นวายกับคดีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลทำให้ขึ้นศาลในหลายกรณี
  • British Airways โดนสำนักงานคณะกรรมาธิการด้านข้อมูล (ICO) แห่งสหราชอาณาจักร สั่งลงโทษปรับเป็นจำนวน 204.6 ล้านยูโร จากเหตุโดนแฮคข้อมูลทางการเงินของลูกค้ามากกว่า 400,000 คน แต่จำนวนเงินที่ถูกปรับจริงอยู่ที่ 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยศาลพิจารณาจากคำให้การจากตัวแทนสายการบิน และปัจจัยด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 เข้ามาคำนวณในการปรับ

 

นอกจากนี้ยังมีบริษัทอีกหลายแห่งทั่วโลกที่ถูกปรับหรือต้องจ่ายค่าสินไหม กรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอีกมาก นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า ‘ค่าปรับ’ ซึ่งเป็นบทลงโทษในกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้นยังขึ้นอยู่กับ ‘ดุลยพินิจ’ ของหน่วยงานด้านคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละประเทศอีกด้วย ตลอดจนดูถึง เจตนาและเหตุผล ที่ยกมาอ้างอิงในเหตุการณ์ละเมิดดังกล่าว

หลาย ๆ ท่านอาจตั้งข้อสงสัยว่า ภายใต้การบังคับใช้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ กฎหมาย PDPA ที่เป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของประเทศไทยที่มีต้นแบบมาจาก GDPR นั้น ค่าปรับในกรณีการละเมิดจะต้องจ่ายเท่าไหร่ และใช้บรรทัดฐานใดบ้างในการตัดสินคดีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งกฎหมายได้ถูกบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมาแล้ว

 

ค่าปรับ และค่าสินไหม หากละเมิดตามกฎหมาย PDPA ต้องจ่ายเท่าไหร่?

แจ้งให้ทราบด้วยทั่วกันว่า ผู้ที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยเรื่องค่าปรับ และการกำหนดโทษ คือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาศัยอำนาจของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ในการที่จะพิจารณาบทลงโทษใน 3 ลักษณะ คือความรับผิดทางแพ่ง โทษอาญา และโทษทางปกครอง โดยในกฎหมาย PDPA มีการระบุไว้อย่างชัดเจน ดังนี้

 

ความรับผิดทางแพ่ง

บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) และผู้ประมวลผลข้อมูล (Data Processor) หากมีการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA จนทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะจงใจหรือประมาทเลินเล่อ จะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลฯ อาจพิจารณาเพิ่มโทษเป็น 2 เท่าจากความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น

สูตรคำนวณ คือ ค่าปรับจริง + 2 เท่าของค่าปรับ = เงินค่าสินไหมทดแทนที่ต้องจ่าย

 

โทษทางอาญา

สำหรับโทษอาญาของกฎหมาย PDPA กำหนดไว้ 2 ลักษณะ คือ การปรับเงิน และการจำคุก หรืออาจโดนทั้ง 2 โทษ ดังนี้

  • เก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • เก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อแสวงหาประโยชน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • กรณีผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย นำข้อมูลส่วนบุคคลที่ทราบจากหน้าที่ไปเปิดเผย มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

หากกรณีผู้กระทำผิดเป็น ‘นิติบุคคล’ ซึ่งเกิดจากการสั่งการของกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้รับผิดชอบภายในงานนั้น หรือละเว้นที่จะสั่งการเป็นเหตุให้เกิดการทำผิดกฎหมาย PDPA บุคคลดังกล่าวจะต้องรับโทษตามบทลงโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ในความผิดนั้นด้วย

แม้ว่าการกำหนดโทษจะอ้างอิงจากพฤติการณ์ต่าง ๆ เช่น ความร้ายแรงของความเสียหาย ผลประโยชน์ที่ผู้ควบคุมข้อมูล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลได้รับตลอดจนสถานะทางการเงิน การบรรเทาในส่วนที่เกิดความเสียหาย หรือขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลฯ ซึ่งบทลงโทษอาจรวมทั้ง ความรับผิดทางแพ่ง โทษอาญา และโทษทางปกครองร่วมด้วย

 

บทลงโทษทางปกครอง

กรณีบุคคล หรือนิติบุคคล มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ ‘วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย’ โดยกฎหมายของ PDPA อนุญาตให้ทำได้โดยอ้างอิงจากฐานสัญญา หรือฐานประโยชน์โดยชอบตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายบัญญัติไว้ว่า หากผู้ควบคุมข้อมูล และผู้ประมวลผลข้อมูลหรือตัวแทนผู้ควบคุมข้อมูล หากไม่ดำเนินตามกฎหมายบัญญัติจะถือว่าละเมิดกฎหมาย PDPA มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยมีข้อบัญญัติดังนี้

  • แจ้งข้อมูลของผู้จัดเก็บ
  • ระบุวัตถุประสงค์และรายละเอียดข้อมูลในการจัดเก็บ
  • กำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บ
  • แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลที่จะอาจจะถูกเปิดเผยแก่บุคคลที่สาม
  • แจ้งสิทธิต่างๆ และดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูล
  • จัดทำบันทึกรายการข้อมูลส่วนบุคคล
  • มีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามความเสี่ยงของข้อมูลอย่างเหมาะสม
  • จัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย (เจ้าหน้าที่ DPO)

 

โทษปรับทางปกครองสำหรับควบคุมข้อมูล –ผู้ประมวลผลข้อมูลหรือตัวแทนผู้ควบคุมข้อมูล ไม่เกิน 3 ล้านบาท ในกรณีดังนี้

  • เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้รับความยินยอม
  • เก็บ รวบรวมข้อมูลโดยไม่ขอความยินยอมแก่เจ้าของข้อมูล
  • ไม่แจ้งวัตถุประสงค์และรายละเอียดแก่เจ้าของข้อมูล
  • ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผิดวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้
  • เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง
  • ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศที่ขัดต่อข้อบัญญัติตามกฎหมาย PDPA
  • เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวโดยไม่ได้รับความยินยอม

 

โทษปรับทางปกครองสำหรับควบคุมข้อมูล –ผู้ประมวลผลข้อมูลหรือตัวแทนผู้ควบคุมข้อมูลไม่เกิน 5 ล้านบาท ในกรณีดังนี้

  • เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ประวัติอาชญากรรม โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้แก่บุคคลที่สาม
  • ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวไปยังต่างประเทศที่ผิดต่อบทบัญญัติตามกฎหมาย

 

โทษปรับทางปกครองไม่เกิน 1 ล้านบาท จากกรณีนี้

  • ไม่มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) หรือ แต่งตั้งตัวแทนในกรณีที่เป็นกิจการขนาดใหญ่ หรือมีการเก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก
  • ไม่ดำเนินการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) โดยจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์อย่างเพียงพอ รวมทั้งอำนวย ความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ออกจากงานหรือเลิกสัญญาการจ้างด้วยเหตุที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย PDPA

 

โทษปรับทางปกครองไม่เกิน 5 แสนบาท จากกรณีนี้

  • ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือไม่มาชี้แจงข้อเท็จจริง หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญมีอำนาจสั่งลงโทษปรับทางปกครองตามที่กำหนดไว้ หรือสามารถสั่งให้แก้ไข และตักเตือนก่อนได้เช่นกัน

หลังจากที่ทุกท่านได้ทราบข้อมูลเรื่องค่าปรับ ค่าสินไหมทดแทน และโทษทางปกครองที่ต้องจ่าย หากบุคคลหรือนิติบุคคลมีการละเมิดกฎหมาย PDPA ไม่ว่าจะเหตุจงใจหรือประมาทก็ตาม ผู้ประกอบการสามารถแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ DPO เพื่อให้การดำเนินการขององค์กรสามารถลดความเสี่ยงที่อาจมีการละเมิดกฎหมายได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี ที่ทุกองค์กรควรดำเนินการ

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SME หากไม่ได้มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก หรือมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว อาจพิจารณาแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประสานงานข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องกฎหมาย PDPA ก็จะสามารถลดความเสี่ยงการละเมิดกฎหมายได้เช่นกัน

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม