PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

เราทราบดีว่า การสื่อสารเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ ทั้งเราปฏิเสธไม่ได้ว่า แพลตฟอร์ม ‘LINE’ ได้กลายเป็นส่วนในชีวิตประจำวันของผู้คนในปัจจุบัน และกว่า 47 ล้านบัญชีในประเทศไทยใช้ LINE ในการสื่อสาร ด้วยคุณสมบัติที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วจึงทำให้แอปพลิเคชันส่งข้อความโต้ตอบแบบสองทาง ได้พัฒนาสู่การสื่อสารที่สามารถสร้าง Community หรือการโต้ตอบแบบกลุ่ม

ซึ่งเชื่อว่าคงคุ้นเคยกับ ‘LINE Group’ ที่องค์กรธุรกิจต่างนำมาใช้ในการสื่อสารภายในองค์กร หรือระหว่างองค์กรจนกลายวัฒนธรรมการสื่อสารใหม่ (หรือความเคยชิน) ที่สังคมการทำงานในไทยยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาฃ

ใคร ๆ ก็ใช้กัน ! .. แต่กระนั้นควรทราบว่า การสื่อสารผ่านไลน์ขององค์กรอาจละเมิดของมูลส่วนบุคคลตามบทบัญญัติของกฎหมาย PDPA หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ได้ง่ายมาก ที่สำคัญกว่านั้น คือรูปแบบการสื่อสารดังกล่าวยังมีความ ‘อ่อนไหว’ ในด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ทั้งยังเป็นภัยคุกคามที่ ‘แฝงเร้น’ ซึ่งธุรกิจจะต้องทราบและมีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

 

 

ใช้ ‘LINE’ ขององค์กรธุรกิจผิดกฎหมาย PDPA ในลักษณะใด?

ก่อนอื่นจะต้องทราบว่า นโยบายความเป็นส่วนตัว LINE หรือ บริษัท ไลน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ท่านสามารถศึกษาได้จากลิงค์นี้ https://line.me/th/terms/policy/ ) เป็นนโยบายความเป็นส่วนตัวของ LINE เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่ได้รวมถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากผู้ใช้บริการด้วยกันเอง

หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รูปภาพโปรไฟล์ เบอร์มือถือ อีเมล ข้อมูลเอกสารไฟล์เสียงและข้อความการสนทนา ที่ได้เปิดเผย และได้ยินยอมจากผู้ใชแอปพลิเคชันไลน์เป็นความรับผิดชอบของ บริษัท ไลน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด แต่การละเมิดที่เกิดจากการกระทำของผู้ใช้บริการ ความรับผิดชอบนั้นจะเป็นของบุคคลหรือองค์กรนั้น ๆ ทาง LINE จะไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบต่อการกระทำหรือความผิดนั้นด้วย และอาจเกิดขึ้นจากกรณีดังต่อไปนี้

• การละเมิดจากภายใน : บริษัทใช้ไลน์กลุ่มในการสื่อสารภายใน แล้วเกิดมีบุคคลภายในนำข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อความที่สนทนาไปเปิดเผยหรือใช้ประโยชน์ และก่อให้ความความเสียหาย บริษัทจะต้องรับผิดชอบความเสียหายเนื่องจากมีสถานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

• การละเมิดระหว่างองค์กร : การสื่อสารระหว่างบริษัทโดยใช้ไลน์กลุ่มหากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกใช้กลุ่มไลน์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูล ความรับผิดชอบในลำดับแรกคือบริษัทที่มีการสื่อสารระหว่างกัน

• การละเมิดจากบุคคลภายนอกหรืออดีตพนักงาน : ถ้าพนักงานลาออกจากบริษัทแต่ยังสามารถเข้าถึงไลน์กลุ่ม ทั้งได้แบ่งปันหรือแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลในกลุ่มไลน์ และเกิดความเสียหาย ความรับผิดชอบในลำดับแรกยังเป็นของบริษัทนั้นเช่นกัน

• เปิดเผยหรือแชร์ข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม : ข้อความ ข้อมูลการสนทนา รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เสียง ข้อมูลการติดต่อของสมาชิกในกลุ่ม หรือข้อมูลเอกสารใดๆ ที่ใช้สื่อสารในกลุ่มไลน์บริษัท เป็นความรับผิดชอบของบริษัทนั้น หากเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้เกิดความเสียหายหรือแม้แต่การนำไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การชดเชยความเสียหายหรือความผิดต่าง ๆ จากบทลงโทษของ PDPA จะมีผลกับบริษัทนั้นเป็นลำดับแรก (บริษัทสามารถดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายจากผู้กระทำผิดได้ แต่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบจากการละเมิด PDPA ที่เกิดความเสียหายได้)

• ถูกโจรกรรมข้อมูล : หากข้อมูลในไลน์กลุ่มถูกแฮก ข้อมูลในไลน์กลุ่มหลุด หรือถูกขโมยข้อมูลและนำไปใช้กระทำความผิด ความรับผิดจะตกอยู่กับบริษัทที่มีข้อมูลรั่วไหลซึ่งพนักงานมีสิทธิในการเรียกค่าเสียหายได้ (กฎหมาย PDPA จะพิจารณาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงหรือสองเท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น)

 

 

ทำไมบริษัทถึงต้องรับผิดชอบจากการละเมิดข้อมูลในไลน์กลุ่ม ?

เมื่อพิจารณาจากวัฒนธรรมขององค์กรในปัจจุบัน ที่มักจะมีไลน์กลุ่มของพนักงานทั้งหมด ทั้ง HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลของแต่ละบริษัทก็มีการเชิญชวน (แกมบังคับ) ว่าทุกคนต้องเข้าไลน์กลุ่มของบริษัทเพื่อการติดสื่อสื่อสารที่รวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ การเก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลบัญชีไลน์ ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลจะต้องได้รับความยินยอม และบริษัทจะมีสถานะเป็นผู้ควบคมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งมีหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัยอย่างเหมาะสมกับความเสี่ยง เป็นความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

ดังนั้น ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าหากบริษัทที่สร้างไลน์กลุ่มขึ้นมามีการรวบรวมรายชื่อไลน์ของพนักงาน ซึ่งอย่างน้อยจะต้องมีรูปภาพบุคคลและรายชื่อเป็นจำนวนมาก ความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการละเมิดจากภายในก็ยิ่งมีมากขึ้น

และไม่ใช้เรื่องที่เราสมติขึ้นมาลอย ๆ … แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นต่างประเทศมามากมาย ภายใต้ข้อปฏิบัติตามกฎระเบียบการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค หรือ GDPR ที่สามารถเทียบเคียงได้กับการใช้งานแอปพลิเคชันแชทเพื่อสื่อสารภายในหรือระหว่างองค์กรธุรกิจ เช่น WhatsApp, Facebook Messenger,Telegram เป็นต้น

ซึ่งผู้คนจำนวนมากไม่ทราบถึงความเสี่ยงของการใช้แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียเหล่านี้ และไม่ทราบว่า ข้อมูลนายจ้าง พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ข้อความที่สนทนา แลเอกสารต่าง ๆ ที่ได้มีการส่งต่อจะถูกนำไปใช้ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของบริษัท หรือแชร์เอกสารที่ส่งไปให้บุคคลภายนอกได้ทราบด้วยหรือไม่ และแน่นอนว่าการไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน และเกิดเป็นกรณีฟ้องร้องในหลาย ๆ กรณีในยุโรป อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา

 

 

เคล็ดลับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบริษัทที่ใช้ LINE Group

1. ใช้น้อย ๆ และใช้อย่างระมัดระวัง : บริษัทควรหลีกเลี่ยงการให้พนักงานทั้งหมดสมัครไลน์กลุ่มบริษัท เนื่องจากไม่มีความจำเป็นเท่าที่ควร และเป็นความเสี่ยงที่บริษัทจะต้องแบกรับ แม้มองว่าเป็นเหตุผลเพื่อการสื่อสารที่รวดเร็ว ก็อาจจะพิจารณาช่องทางสื่อสารอื่นที่ปลอดภัยและถูกพัฒนามาเพื่อธุรกิจจะเหมาะสมกว่า เช่น แอปพลิเคชันแชททีมที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ แต่หากมีความจำเป็นจะต้องใช้ LINE Group อาจะพิจาณาเป็นรายแผนก หรือแต่ละโปรเจคแยกกันอย่างชัดเจนจะดีกว่า

2. การตระหนักรู้เป็นสิ่งสำคัญ : องค์กรที่มีความจำเป็นต้องใช้ LINE Group ในการติดต่อสื่อสาร เช่น ลูกค้าถนัดใช้ช่องทางนี้ จะต้องมีการอบรมหรือการ ‘Educate’ ด้านกฎหมาย PDPA แก่พนักงาน ขณะเดียวกันควรมีการสร้างวัฒนธรรมการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและการักษาข้อมูลที่เป็นความลับทางธุรกิจด้วย

3. อัปเดตข้อมูลสมาชิกอยู่เสมอ : การป้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในหน้าที่ หรือไม่มีความจำเป็นในงานนั้นๆ แล้ว LINE Group ควรจะต้องมีการอัปเดตให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันความเสี่ยงการละเมิดข้อมูลสมาชิกจากอดีตพนักงาน หรือบุคคลภายนอก

4. กฎเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน : มารยาทการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ แต่บ่อยครั้งก็มีการละเลย ด้วยเหตุนี้ การตั้งกฎกลุ่มหรือระเบียบการสื่อสารระหว่างคู่สนทนาหรือระหว่างองค์กรจึงเป็นสิ่งที่ควรนำมาใช้ ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้างกติกาเพื่อการอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ร่วมกัน แต่ยังสามารถป้องกันเหตุละเมิดจากการกระทำที่ไม่เจตนาหรือเกินขอบเขตได้อีกด้วย

5. แต่งตั้งผู้ดูแลกลุ่มโดยตรง : การแต่งตั้งผู้มีหน้าที่และอำนาจโดยตรงในการดูแลความเรียบร้อยของ LINE Group อาจเป็นสิ่งที่ดูหยุมหยิมไปบ้าง แต่หากมองที่การปกป้องข้อมูลให้มีความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่พอจะเข้าใจได้ ที่สำคัญผู้ดูแลกลุ่มจะต้องมีความรู้และความเข้าใจเรื่องทางเทคนิคและไอทีดีพอสมควรเพื่อที่จะสามารถป้องการการโจรกรรมข้อมูลสมาชิกในกลุ่มได้อย่างทันท่วงที

 

อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้จะบอกว่าการใช้ LINE Group เป็นสิ่งที่อันตรายหรือควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากในปัจจุบันแอปพลิเคชันได้มีการพัฒนาและปรับแต่งให้มีความปลอดภัยและสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA

แต่กระนั้น การใช้ก็ควรดูที่วัตถุประสงค์ ความจำเป็น และมีแนวทางด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ที่สำคัญคือ ต้องจำไว้เสมอว่า การเก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายเท่านั้น

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม