Pichitchai Sangnak

Pichitchai Sangnak
Pichitchai Sangnak
จากบทลงโทษ “บริษัทเอกชนรายใหญ่ของประเทศที่มีการซื้อขายสินค้าออนไลน์” ทำข้อมูลรั่วไหล เมื่อปีก่อน ส่งผลให้มีผู้ได้รับความเสียหายผ่านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบ จนเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะมีคำสั่งลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567  โดยคำสั่งฯ ระบุ โทษทางปกครอง PDPA และค่าปรับรวมสูงถึง 7,000,000 บาท อ่านข่าวฉบับเต็ม >> ปรับจริง 7 ล้าน! ไม่ทำตาม PDPA คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญสั่งลงโทษทางปกครองภาคเอกชน
ล่าสุดวันที่ 1 สิงหาคม 2568 – คุณประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แถลงในนามสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ลงโทษปรับ “ภาครัฐ – เอกชน” รวม 5 เรื่อง 8 คำสั่ง ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ผนวกกับคำสั่งลงโทษปรับทางปกครองที่ปรับมาแล้ว 1 เรื่อง 1 คำสั่ง นับตั้งแต่มีการบังคับใช้ PDPA มามีคำสั่งลงโทษปรับทางปกครองไปแล้ว 6 เรื่อง 9 คำสั่ง มีมูลค่ารวมปรับไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 21.5 ล้านบาท

สรุปเหตุการณ์ 5 กรณีสำคัญ จาก 8 หน่วยงาน ถูกลงโทษทางปกครอง PDPA รายละเอียดดังนี้


1. หน่วยงานรัฐถูกปรับ เหตุทำข้อมูลประชาชนรั่ว
     หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งให้บริการผ่าน Web Application ซึ่งว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่งพัฒนาระบบ แต่ละเลยมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม ใช้รหัสผ่านอ่อนแอ ไม่มีการประเมินความเสี่ยง และไม่จัดทำข้อตกลง Data Processing Agreement (DPA) กับบริษัทพัฒนาระบบ
ผลคือ มีการเจาะระบบและนำข้อมูลประชาชนกว่า 200,000 รายไปขายใน Dark Web นำไปสู่การลงโทษปรับในครั้งนี้
โดยแบ่งการลงโทษออกเป็น 2 กรณี
1. หน่วยงานของรัฐ ในฐานะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ถูกลงโทษปรับ 153,120 บาท
2. บริษัทผู้พัฒนาระบบ ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) ถูกลงโทษปรับ 153,120 บาท

2. โรงพยาบาลเอกชนทำข้อมูลเวชระเบียนหลุด เกิดเป็นกระแสถุงขนมโตเกียว
     โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (DC) ทำข้อมูลเวชระเบียนผู้ป่วยรั่วไหล แล้วเอกสารข้อมูลดังกล่าวถูกนำไปเป็นซองขนมโตเกียว เกิดเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ 
ตรวจสอบพบว่า โรงพยาบาลดังกล่าวทำสัญญากับกิจการขนาดเล็กซึ่งมีลักษณะเป็นธุรกิจครอบครัวให้ทำหน้าที่ทำลายเอกสารเวชระเบียน แต่ไม่ได้มีการติดตาม ควบคุม หรือตรวจสอบกระบวนการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทำให้เอกสารเวชระเบียนกว่า 1,000 ฉบับ รั่วไหล
ในส่วนของเอกชน (บุคคลธรรมดา) ผู้รับจ้างทำลายเอกสาร ก็ได้นำเวชระเบียนผู้ป่วยที่ได้รับจากโรงพยาบาลกลับไปพักไว้ที่บ้านของตนเอง โดยไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ตกลงไว้ และไม่ได้แจ้งเหตุการรั่วไหลให้โรงพยาบาลทราบ จึงเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นำไปสู่บทลงโทษครั้งนี้
โดยแบ่งการลงโทษออกเป็น 2 กรณี
1. โรงพยาบาล ในฐานะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ถูกลงโทษปรับ 1,210,000 บาท
2. บุคคลธรรมดา ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) ถูกลงโทษปรับ 16,940 บาท

3. บริษัทขายสินค้า IT ชื่อดัง ทำข้อมูลรั่ว ถูกร้องเรียนอันนำไปสู่โทษปรับกว่า 7 ล้านบาท
     บริษัทขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ไม่แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่หน่วยงานกำกับดูแลหรือ สคส. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอด้วยเหตุที่มีข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากแต่ไม่จัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวม 3 ข้อหา ถูกลงโทษปรับรวม 7,000,000 บาท

4. บริษัทขายเครื่องสำอาง ทำข้อมูลรั่ว นำไปสู่กระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และไม่มีการเยียวยา
     บริษัทขายเครื่องสำอาง ไม่จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม และไม่แจ้งเหตุการละเมิดของมูลส่วนบุคคลแก่หน่วยงานกำกับดูแลหรือ สคส. รวม 2 ข้อหา ถูกลงโทษปรับรวม 2.500,000 บาท

5. บริษัทขายของเล่นสะสมระดับโลก ถูก Hacker เจาะระบบการจองสินค้า
     บริษัทขายของเล่นสะสม ว่าจ้างบริษัทผู้พัฒนาระบบเพื่อใช้สำหรับจองสินค้า แต่ระบบการจองดังกล่าวถูก Hacker เจาะระบบ ตรวจสอบพบว่า ไม่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศอย่างเหมาะสม แต่มีการเยียวยาผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเร็ว
ส่วนของบริษัทผู้พัฒนาระบบ ซึ่งรับหน้าที่ดูแลระบบการจองของบริษัทขายของเล่นสะสมดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า ไม่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศอย่างเหมาะสม และไม่มีการตอบสนองที่รวดเร็ว และไม่มีการเยียวยาต่อผู้เสียหาย อันนำไปสู่บทลงโทษครั้งนี้
โดยแบ่งการลงโทษออกเป็น 2 กรณี
1. บริษัทขายของเล่นสะสม ในฐานะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ถูกลงโทษปรับ 500,000 บาท
2. บริษัทผู้พัฒนาระบบ ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) ถูกลงโทษปรับ 3,000,000 บาท
สรุปเหตุการณ์ การลงโทษปรับทางปกครอง PDPA ในครั้งนี้
บทสรุป จาก 5 กรณีสำคัญ จาก 8 หน่วยงาน ถูกลงโทษทางปกครอง PDPA
     จาก 5 กรณีนี้ เปรียบเสมือนสัญญาณที่ย้ำเตือนทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง ควรตระหนักว่า การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ใช่แค่เรื่องของเอกสาร แต่คือความรับผิดชอบที่ต้องดำเนินการให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย, การประเมินความเสี่ยง, การมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลที่เพียงพอ และอีกมากมาย เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนได้รับการคุ้มครองในระดับสูงสุด ซึ่งการทำ PDPA ในองค์กรหรือหน่วยงาน จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยแสดงถึงความโปร่งใส อันนำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อลูกค้า, คู่ค้า, พันธมิตร, ประชาชน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน
 

“มั่นใจได้อย่างไร ว่ารายต่อไปไม่ใช่คุณ”

เตรียมความพร้อมองค์กรด้าน PDPA & DPO ด้วยบริการจาก PDPA Thailand
ครอบคลุมการให้คำปรึกษา สอบทาน ฝึกอบรม และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สอบถามโทร 081-632-5918  หรือ Line: @pdpathailand

 

รับชมแถลงการฉบับเต็ม คลิก >> https://www.facebook.com/pdpc.th/videos/4315039248821870
pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม