PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA  หมายถึง พ.ร.บ. ที่มีขึ้นเพื่อให้ภาคเอกชนและภาครัฐ ที่มีการเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย รวมถึงการโอนข้อมูลส่วนบุคคลในไทยให้เป็นไปตามมาตรการปกป้องข้อมูลจากการถูกละเมิดสิทธิส่วนตัว การขอความยินยอมถือเป็นหนึ่งในฐานของกฎหมาย  (และควรเป็นฐานที่เป็นทางเลือกสุดท้ายในการประมวล)  โดยมีการระบุให้ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเสียก่อนการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเสมอเป็นการสร้างมาตรฐานการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัย และนำไปใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ตามคำยินยอมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นสมควร  

 

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลที่อายุต่ำกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์ และไม่ใช่ผู้บรรลุนิติภาวะ ในทางกฎหมายถูกกำหนดว่าจะต้องอยู่ในกรณีเท่าที่จำเป็น กำหนดเกณฑ์ในการขอความยินยอม ที่มีเงื่อนไขมากกว่าปกติ  ถึงจะสามารถเก็บรวบรวมได้ และในการให้ความยินยอมใด ๆ ต้องทำตามแนวทางที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. กรณีการให้ความยินยอมไม่ใช่การใดๆที่ผู้เยาว์ให้ความยินยอมได้โดยลำพัง ตามปพพ. ต้องได้รับความยยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ด้วย (หรือสรุปง่ายๆ ขอความยินยอมผู้เยาว์ + ขอความยินยอมผู้ปกครอง แต่ถ้ากิจกรรมที่ผู้เยาว์ทำได้โดยลำพัง ก็ไม่จำเป็นต้องขอผู้ปกครอง)
  2. กรณีผู้เยาว์อายุไม่เกิน 10 ปี ให้ขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจดำเนินการแทนทั้งนี้หากเป็นกรณีที่องค์กรจำเป็นต้องมีการเก็บข้อมลส่วนบุคคล เช่น โรงเรียน ศูนย์อนุบาล ที่มีผู้ปกครองมาติดต่อ ขอเข้าร่วมกิจกรรม หรืออื่นใดจากองค์กร รวมถึงการดำเนินงานเกี่ยวกับงานวิจัยเด็กที่จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อการสำรวจ  ทางองค์กรจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ปกครองหรือผู้ใช้อำนาจปกครองด้วยความสมัครใจ
  • ผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้เยาว์ให้ความยินยอม (Consent)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้เยาว์ได้เข้าผูกพันกับองค์กร หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา (Contract)
  • เป็นการจำเป็นในการปกป้องหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interest)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินพันธกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่องค์กร (Public Task/Official Authority)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ (Legitimate Interest)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด (Scientific or Research)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (Legal Obligation)

 

 

สำหรับรายละเอียดที่ต้องพิจารณาตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA นั้นมีข้อบังคับสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้ และการเผยแพร่ข้อมูลเเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกนำไปใช้ในทางที่เหมาะสมกับบริบทมากที่สุด ดังนั้นขอบข่ายในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นสิ่งที่มีข้อจำกัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลต่างๆ ไปใช้งานเกินความจำเป็น จำเป็นต้องมีการกำหนดโทษเอาไว้อยู่ 3 ส่วน คือโทษทางแพ่ง โทษทางอาญา และโทษทางปกครอง ท่านสามารถอ่านบทความ ค่าปรับ และบทลงโทษจากการละเมิดกฎหมาย PDPA ต้องจ่ายเท่าไหร่? ธุรกิจไทยดูไว้เป็นตัวอย่าง! ได้ที่นี่ คลิก!

 

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม