PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand
ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์ในการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ พ.ศ. 2567 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer DPO) มีบทบาทหน้าที่ต้องให้คำแนะนำเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น DPO ควรสามารถให้แนะนำองค์กรเกี่ยวกับการทำข้อมูลนิรนาม (Anonymization) ซึ่งจะต้องคำนึงถึงการจัดการและความสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังนี้
  1. การทำเป็นข้อมูลนิรนามสำหรับกิจกรรมใหม่ ให้วางแผนตั้งแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 ส่งเสริมการทำข้อมูลนิรนามตั้งแต่เริ่มต้น (Privacy by Design)
  – แนะนำให้ วางแผนการทำข้อมูลนิรนามตั้งแต่การเก็บข้อมูล ในกระบวนการประมวลผล เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และช่วยลดภาระในการจัดการข้อมูลในระยะยาว
  – องค์กรควรสร้างระบบการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่ รองรับการนิรนาม เช่น การออกแบบระบบให้สามารถลบข้อมูลตัวระบุส่วนบุคคล (Direct Identifiers) ได้ทันทีที่ไม่จำเป็นต้องใช้ และเก็บเฉพาะข้อมูลที่นิรนามเพื่อการวิเคราะห์ต่อไป
  – ต้องวางมาตรการในการป้องกันการ Re-identification เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลไม่สามารถนำไปเชื่อมโยงกลับไปยังเจ้าของข้อมูลได้
1.2 จัดทำกระบวนการนิรนามที่มีมาตรฐาน
  – องค์กรควรเลือกใช้ มาตรฐานสากล สำหรับการทำข้อมูลนิรนาม เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การลบตัวระบุ หรือการจัดกลุ่มข้อมูลที่เหมือนกัน (Aggregation) เพื่อลดความเสี่ยงจากการเชื่อมโยงกลับ
  – DPO ควรจัดทำคู่มือและแนวทางปฏิบัติในการทำข้อมูลนิรนามให้ชัดเจน เพื่อให้บุคลากรในองค์กรทราบถึงขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตาม
  1. สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เคยเก็บแล้ว เมื่อหมดวัตถุประสงค์การเก็บข้อมูล
2.1 ประเมินความจำเป็นในการเก็บข้อมูลต่อหลังจากหมดวัตถุประสงค์
  – เมื่อวัตถุประสงค์การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหมดลง ควรแนะนำให้องค์กร ประเมินว่ามีความจำเป็นในการเก็บข้อมูลต่อหรือไม่ หากไม่มีความจำเป็น ควรทำลายข้อมูล แต่หากข้อมูลสามารถนำไปใช้ในเชิงสถิติหรือวิเคราะห์ได้ ควรทำเป็นข้อมูลนิรนามแทน
  – จัดทำ บันทึกการดำเนินการ ว่าทำไมองค์กรถึงเลือกทำข้อมูลนิรนามแทนการลบ เพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่ถูกตรวจสอบ
2.2 สร้างระบบตรวจสอบการนิรนาม
  – เนื่องจากข้อมูลนิรนามยังอาจถูกนำมาใช้ในกระบวนการวิเคราะห์ ควรแนะนำให้องค์กร จัดตั้งระบบการตรวจสอบข้อมูลนิรนาม เพื่อป้องกันการ Re-identification
  – ต้องมี การทดสอบเป็นระยะ ว่าข้อมูลที่ถูกทำให้เป็นนิรนามยังคงมีความปลอดภัยและไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  1. สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เคยเก็บแล้ว และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิร้องขอการลบหรือการทำข้อมูลนิรนาม
3.1 กำหนดกระบวนการตอบสนองต่อคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  – เมื่อเจ้าของข้อมูลร้องขอให้ลบข้อมูล ควรแนะนำให้องค์กรพิจารณาทางเลือกในการทำข้อมูลนิรนามแทนการลบข้อมูล หากข้อมูลนั้นยังสามารถใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น ในกรณีของการวิจัยหรือการวิเคราะห์ข้อมูล
  – กระบวนการลบหรือทำข้อมูลนิรนามต้องทำภายใน ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด (เช่น ภายใน 30 วัน) และต้องมี การแจ้งผลการดำเนินการ ให้เจ้าของข้อมูลทราบ
3.2 สร้างความโปร่งใสและระบบติดตามคำร้อง
  – องค์กรควรมี ระบบในการติดตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคำขอได้รับการตอบสนองอย่างเหมาะสม และผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างชัดเจน
  – ควรมีการ บันทึกการดำเนินการ ทั้งหมดเพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล
  1. สำหรับกิจกรรมที่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อเนื่อง
4.1 พิจารณาผลกระทบจากประกาศล่าสุด
  – หากองค์กรมีการประมวลผลข้อมูลต่อเนื่อง แนะนำให้มีการประเมินประกาศความเป็นส่วนตัว บันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฐานกฎหมายที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูล และข้อตกลงการโอนข้อมูล ว่าสอดคล้องกับประกาศล่าสุดหรือไม่ หากไม่ จำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการใหม่ให้สอดคล้องกับประกาศ
  – แนะนำให้ใช้ทางเลือกในการทำข้อมูลนิรนาม หากข้อมูลนั้นสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องระบุตัวบุคคล
4.2 ประเมินผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล
  – หากกิจกรรมที่มีการดำเนินการต่อเนื่อง มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก มีข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้ในการระบุตัวตนกับหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันการเงิน หรือมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวหรือลักษณะพิเศษ ควรแนะนำให้องค์กรทำมาตรการประเมินผลกระทบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Impact Assessment: DPIA) ย้อนหลัง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งหากมีความเสี่ยงสูงควรที่จะจัดทำเป็นข้อมูลนิรนาม หรือข้อมูลแฝง
5.การปรับกระบวนการจัดการข้อมูลในกิจกรรมใหม่
5.1 พิจารณากฎหมายใหม่และความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  – หากองค์กรมีการประมวลผลข้อมูลในกิจกรรมใหม่ แนะนำให้มีการประเมิน ฐานกฎหมายที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล โดยหากข้อมูลนั้นต้องการความยินยอมใหม่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ควรขอความยินยอมอย่างโปร่งใสและชัดเจน
  – แนะนำให้ใช้ทางเลือกในการทำข้อมูลนิรนาม หากข้อมูลนั้นสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องระบุตัวบุคคล
5.2 ประเมินผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล
  – การดำเนินกิจกรรมใหม่ ควรแนะนำให้องค์กรทำมาตรการประเมินผลกระทบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Impact Assessment: DPIA) มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก มีข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้ในการระบุตัวตนกับหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันการเงิน หรือมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวหรือลักษณ์พิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการประมวลผลข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงสูง เช่น ข้อมูลสุขภาพ หรือข้อมูลชีวมิติ ซึ่งหากมีความเสี่ยงสูง ให้แนะนำจัดทำเป็นข้อมูลนิรนาม หรือข้อมูลแฝง
  1. มาตรการรักษาความปลอดภัยและการควบคุมการเข้าถึง
  6.1 มาตรการป้องกันการ Re-identification
  – ควรแนะนำให้องค์กรมีมาตรการป้องกันการเชื่อมโยงข้อมูลกลับไปยังตัวบุคคล โดยเฉพาะการเข้ารหัสข้อมูลหรือการจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ที่มีสิทธิเท่านั้น
  – ควรมี ระบบตรวจสอบการเข้าถึง (Audit Log) เพื่อบันทึกว่ามีใครเข้าถึงข้อมูลและใช้ข้อมูลในลักษณะใดบ้าง เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินการ
6.2 การจัดการกับผู้ประมวลผลข้อมูล
  – แนะนำให้องค์กรจัดทำ ข้อตกลงกับผู้ประมวลผลข้อมูล (Data Processing Agreement: DPA) เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ประมวลผลจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายในการรักษาข้อมูลนิรนามและไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกลับไปยังตัวบุคคลได้
 
ดังนั้นฐานะ DPO จึงควรแนะนำให้องค์กรจัดทำกระบวนการนิรนามให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA และมาตรฐานสากล โดยเน้นความโปร่งใส ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรสามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เสี่ยงต่อการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

 

หลักสูตรฝึกอบรมการบริหารจัดการการลบหรือทำลายข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคล
ที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามกฎหมายลำดับรอง PDPA (Disposal Policy) >> คลิก <<

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม