PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

15 เรื่องที่ DPO ต้องทำเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลองค์กรตาม PDPA

   ในวันที่องค์กรจำเป็นต้องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) หรือแม้แต่คุณเองคือคนที่องค์กรเลือกให้เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ตามที่กฎหมายกำหนด

เพื่อให้องค์กรดำเนินกิจกรรมหรืองานต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA องค์กรคาดหวังอะไรจากเจ้าหน้าที่ DPO ? เราได้รวบรวม “15 ข้อที่ DPO ต้องทำ เมื่อเข้ารับตำแหน่ง” มาให้แล้ว

     15 ข้อ หรือ 15 บทบาท ในการปฏิบัติงานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Operational Life Cycle) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

   1. ขั้นการประเมิน (Assess)

   2. ขั้นการป้องกัน (Protect)

   3. ขั้นการสร้างความยั่งยืน (Sustain)

   4. ขั้นการตอบสนอง (Respond)

ขั้นตอนสำหรับการปฏิบัติงานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Operational Life Cycle)

ขั้นการประเมิน (Assess)

1. องค์กรหรือ DPO ต้องแจ้งรายชื่อ DPO พร้อมทั้งรายละเอียดการติดต่อ สถานที่ เบอร์โทรศัพท์ (แนะนำเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้จริงขององค์กร) อีเมล ให้กับสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่อีเมล [email protected]

2. DPO ที่ดี ต้องศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ขององค์กรว่ามีรูปแบบการทำธุรกิจแบบไหน เช่น B2B, B2C หรือเป็น Platform C2C เป็นต้น 

3. DPO ต้องทำความเข้าใจและสามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์กรเก็บรวบรวม ใช้อยู่ (Identify Personal Data Processed)

4. DPO ต้องช่วยแนะนำ หรือในบางครั้งต้องช่วยจัดทำให้แต่ละหน่วยธุรกิจขององค์กรมีการจัดทำระเบียนบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล Data Inventory Mapping (DIM)

5. DPO ช่วยจัดทำบันทึกกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Record of Processing Activity : RoPA) ตามมาตรา 39 ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลที่จัดเก็บ วัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูล ใช้ฐานทางกฎหมายใดในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษา สิทธิและวิธีการเข้าถึงของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดข้อมูลในการติดต่อองค์กร รวมถึงคำอธิบายเกี่ยวกับมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล

6. DPO ต้องประเมินความเสี่ยง กรณีองค์กรมีการทำกิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ หรือองค์กรมีคู่ค้าใหม่ (New Vendor) หรือแม้กระทั่งองค์กรมีสถานะใหม่อันเกิดจากการควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition) ถ้าประเมินแล้วกิจกรรมนั้นอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล DPO อาจจะต้องจัดทำหรือแนะนำให้ผู้รับผิดชอบในฝ่ายนั้นๆ ดำเนินการจัดทำ “การประเมินผลกระทบด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Protection Impact Assessment : DPIA) 

 ขั้นการป้องกัน (Protect)

7. ศึกษาหรือจัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) รวมถึงนโยบายพนักงาน นโยบายการจัดซื้อจัดจ้าง นโยบายการรักษาข้อมูล การทำลายข้อมูล ตลอดจนประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notices) ตามมาตรา 23 เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

8. กรณีที่มีการใช้ฐานความยินยอม DPO ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการช่วยจัดทำหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับสัญญาหรือแบบฟอร์มที่ต้องมีการขอความยินยอมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Consent Form)

9. ถ้าองค์กรมีการจ้างบุคคลที่สามมาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว บุคคลที่สามมีสถานะเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) DPO ก็ต้องจัดทำหรือให้ความคิดเห็นองค์กรเกี่ยวกับ “ข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Processing Agreement : DPA) มาตรา 40 วรรค 3 ระหว่างองค์กรในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor)

10. ร่วมมือกับฝ่ายสารสนเทศในการให้ความเห็นระบบต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น ระบบการสแกนลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้าอันเป็นข้อมูลชีวมิติ หรือในกรณีที่องค์กรมีระบบ Application ก็ควรผลักดันหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือความเป็นส่วนตัว (Privacy) ให้อยู่ในแผนตั้งแต่กระบวนการการออกแบบ (Privacy by Design : PbD) 

ขั้นการสร้างความยั่งยืน (Sustain)

11. ช่วยผลักดันให้เกิดกระบวนการสอบทาน (Audit) เกี่ยวกับมาตรการความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล โดยทำงานร่วมกับบุคลากรภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยในการสอบทาน ด้วยกรอบต่างๆ เช่น การบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐาน ISO 27701:2019 หรือมาตรฐานอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งการสอบทานเป็นกระบวนการที่วัดประสิทธิภาพขององค์กรในมิติ การปฏิบัติการ งานระบบ และงานกระบวนการ เป็นต้น

12. ผลักดันโครงการอบรม (Training) ให้ผู้รับผิดชอบและพนักงานที่เกี่ยวข้องในองค์กรให้มีขีดความสามารถรวมถึงความรู้ทักษะของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงให้มีความรู้เข้าใจในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงผลักดันโครงการการสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) ในแต่ละหัวข้อ เช่น ความปลอดภัย (Security) การเปลี่ยนรหัส (Password) ให้ผู้รับผิดชอบและพนักงานที่เกี่ยวข้องในองค์กร เป็นต้น

13. ช่วยจัดทำคู่มือการทำงานเกี่ยวกับ PDPA ให้กับพนักงานที่เกี่ยวข้องในองค์กร

ขั้นการตอบสนอง (Respond)

14. งานมาตราการการรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  (Data Subject Request : DSR) ตั้งแต่ขั้นตอนการศึกษาออกแบบ ปรับปรุง รวมถึงจัดทำและเป็นผู้รับผิดชอบหลักในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งผู้บรรลุนิติภาวะ ผู้ไม่บรรลุนิติภาวะ หรือบุคคลหย่อนความสามารถมาใช้สิทธิกับองค์กร

15. งานมาตรการรายงานการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Breach Notification Management) ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ จัดทำ ทดลอง ปรับปรุง หรืออบรมให้ผู้รับผิดชอบในองค์กรและพนักงานทราบ รวมถึงเป็นคนกลางประสานงาน ตรวจสอบ ค้นหาความจริง กรณีเกิดเหตุละเมิดในองค์กร DPO อาจนำเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไปทบทวน (Review) ถึงต้นตอของปัญหาว่าเกิดจากเหตุใด มีหนทางใดในการแก้ไขในอนาคต

      แล้วท่านรู้จริงหรือไม่? ว่าท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของ DPO ตามกฎหมาย PDPA กำหนดอย่างแท้จริง เช็กให้ชัวร์ DPO Quiz แบบทดสอบประเมินตนเอง เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของ DPO คลิกเลย

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม