ภาพรวมของ AI ในปัจจุบัน
– ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีหลักที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและโลกธุรกิจอย่างกว้างขวาง จากเดิมที่ AI เป็นเพียงแนวคิดในเชิงวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ปัจจุบัน AI ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดผ่านการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) จนกลายเป็น Generative AI และ LLM (Large Language Models) เช่น ChatGPT, Gemini หรือ Claude ซึ่งสามารถประมวลผลและสร้างเนื้อหาได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับมนุษย์
AI มีการทำงานในหลายระดับ (Layer) ตั้งแต่การจัดการข้อมูลเบื้องต้น การวิเคราะห์แนวโน้ม ไปจนถึงการประเมินผลแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะในระดับ “ผู้ใช้งาน” AI ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการให้บริการลูกค้า (Customer-facing) และการสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจในระบบหลังบ้าน (Back-office)
การใช้ AI ในมุมของการตลาด
– ในแวดวงการตลาด AI กลายเป็นตัวช่วยหลักที่เปลี่ยนวิธีการทำงานแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในยุคของ Digital Marketing ที่ข้อมูลมีความสำคัญสูงสุด การนำ AI เข้ามาใช้สามารถเพิ่มทั้งความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย
AI สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายด้าน เช่น:
การสร้างข้อความโฆษณา (Ad Copy) แบบอัตโนมัติที่ตรงใจผู้บริโภค
การผลิตภาพ วิดีโอ หรือกราฟิกที่ปรับเปลี่ยนได้ตามบริบท
การวางแผนกลยุทธ์โดยอิงจากข้อมูลการตลาดแบบเรียลไทม์
การวิเคราะห์และแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสม
แนวโน้มในอนาคต คือ AI จะกลายเป็น “ผู้ช่วยทางการตลาด” ที่สามารถตอบสนองลูกค้าอย่างชาญฉลาด และมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Customer Experience)
การใช้ AI ในมุมของ Governance
แม้ AI จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่การนำมาใช้งานโดยไม่มีแนวทางควบคุม อาจสร้างปัญหาเชิงจริยธรรม ความปลอดภัย และความโปร่งใสในการจัดการข้อมูล AI จึงต้องถูกกำกับดูแลภายใต้หลักธรรมาภิบาล (Governance)
องค์กรต้องพิจารณาหลายประเด็น เช่น:
ข้อมูลที่ AI ใช้ในการฝึกและเรียนรู้มีความแม่นยำหรือไม่
ระบบอัลกอริธึมมีความลำเอียง (Bias) หรือสร้างผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้หรือไม่
ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจหรือสอบทานผลลัพธ์ของ AI ได้หรือไม่ (Explainability)
การกำกับดูแล AI ที่ดีควรมีแนวทางที่ชัดเจน เช่น การกำหนดขอบเขตการใช้งาน การตรวจสอบย้อนหลัง (Audit Trail) และการประเมินความเสี่ยงแบบรอบด้านก่อนการนำ AI ไปใช้จริงในระดับองค์กร
ภาพรวมของ AI กับ PDPA
– AI และ PDPA (พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562) มีความเชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการทำงานของ AI ส่วนใหญ่ต้องอาศัยข้อมูลในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และสรุปผล ซึ่งในหลายกรณีอาจเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล”
PDPA เป็นกฎหมายที่กำหนดให้การเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน มีการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล และมีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือการใช้ข้อมูลในทางที่ไม่เหมาะสมการออกแบบระบบ AI จึงต้องคำนึงถึงหลักการของ PDPA ตั้งแต่ต้นทาง เช่น การคัดเลือกแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง การจัดเก็บอย่างปลอดภัย และการใช้งานภายใต้กรอบของวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและจำเป็น
ความเชื่อมโยงของ AI กับ PDPA
– AI และ PDPA ไม่ใช่เพียงเรื่องเทคนิคกับกฎหมายที่แยกกันอยู่ แต่มีจุดตัดกันหลายด้าน โดยเฉพาะในมิติของ “ข้อมูล” ที่มักซ้อนทับและคลุมเครือระหว่างระบบกับมนุษย์
ความท้าทายที่สำคัญคือ AI มักใช้ข้อมูลจำนวนมากจากหลายแหล่ง ซึ่งอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลปะปนอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจ หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจเกิดการละเมิด PDPA ได้โดยไม่รู้ตัว
แนวทางสำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยง ได้แก่:
การทำ Anonymization หรือ Pseudonymization กับข้อมูลก่อนนำไปใช้กับ AI
ตรวจสอบสิทธิ์และความยินยอมในการเก็บ-ใช้ข้อมูล
การบันทึกการประมวลผลข้อมูล (Record of Processing Activities)
การทำ PDPA ในมิติของผู้ให้บริการด้าน AI
ผู้ให้บริการด้าน AI หรือองค์กรที่พัฒนาโซลูชัน AI จำเป็นต้องมีแนวทางด้านการคุ้มครองข้อมูลที่ชัดเจน ไม่เพียงแค่ด้านเทคนิค แต่รวมถึงนโยบายภายใน วัฒนธรรมองค์กร และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
แนวทางที่ควรดำเนินการ ได้แก่:
1. กำหนดขอบเขตการใช้งาน AI อย่างชัดเจน – ระบุวัตถุประสงค์ที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับแต่ละระบบ
2. ออกแบบมาตรการคุ้มครองข้อมูลอย่างครบวงจร – ทั้งในมิติเทคนิค กฎหมาย และกระบวนการทำงาน
3. ให้ความสำคัญกับจริยธรรม – หลีกเลี่ยงการใช้งานเกินขอบเขต และไม่ใช้ข้อมูลเกินความจำเป็น
4. ส่งเสริมวัฒนธรรมความรับผิดชอบร่วมกัน – ทุกระดับขององค์กรต้องมีส่วนร่วมในการคุ้มครองข้อมูล
5. มีระบบติดตามและตรวจสอบอย่างโปร่งใส – เช่น การทำ AI Audit หรือ Internal Review
ข้อคิดจากเสวนา: การใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ
จากการเสวนา PDPA GURU: AI สาระสำคัญที่องค์กรควรนำไปปฏิบัติ คือ:
วางแผนการใช้ AI อย่างมีเป้าหมายและอยู่ในกรอบของกฎหมาย PDPA
หลีกเลี่ยงการนำ AI เข้ามายุ่งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเกินความจำเป็น
ระวังเรื่องการ Blend ข้อมูลระหว่างระบบอัตโนมัติและมนุษย์ ซึ่งอาจทำให้ขาดการควบคุม
ผู้บริหารควรมีนโยบาย AI ที่ชัดเจน โดยเฉพาะในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลูกค้า
ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายในองค์กรมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการใช้ข้อมูล
บทสรุปเสวนา
– AI เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก แต่ความสำเร็จของการใช้ AI ในองค์กรขึ้นอยู่กับ “วิธีที่เราออกแบบ ใช้งาน และกำกับดูแล” โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้กฎหมาย PDPA
หากองค์กรสามารถผสาน AI เข้ากับแนวคิดของความโปร่งใส ความปลอดภัย และจริยธรรมได้อย่างสมดุล จะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว









