PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

     กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Personal Information Protection Law) หรือ PIPL เป็นกฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่รัฐบาลจีนออกในเดือนสิงหาคม 2021 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของประชาชนจีน

     กฎหมายนี้ใช้กับองค์กรและธุรกิจที่รวบรวม ใช้ ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองจีนไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ใด กำหนดข้อกำหนดในการขอความยินยอม การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และการให้สิทธิแก่บุคคลในการเข้าถึง แก้ไข และลบข้อมูลส่วนบุคคลของตน กฎหมายยังมีบทลงโทษสำหรับการฝ่าฝืน ทั้งปรับ พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ PIPL คาดว่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีการดำเนินงานของธุรกิจในประเทศจีนและวิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

     ทั้ง PDPA และ PIPL ต่างก็เป็นกฎหมายที่มุ่งเน้นคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลในประเทศของตน แม้ว่ากฎหมายทั้งสองจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญบางประการเช่นกัน ข้อแตกต่างบางประการระหว่าง PDPA ของไทยกับ PIPL ของจีน มีดังนี้

  1. ขอบเขตการบังคับใช้(Scope) :
    • PDPA แบ่งแยกกันระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลและผู้ประมวลผลข้อมูล ในขณะที่ PIPL รวมทุกอย่างเป็นผู้ประมวลผลข้อมูล
  2. คำจำกัดความ(Definition) :

กฎหมายทั้งสองฉบับใช้คําจํากัดความที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลแตกต่างกันบางคํา ตัวอย่างเช่น PDPA นิยามข้อมูลส่วนบุคคลว่า “ข้อมูลใด ๆ ที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นเกี่ยวกับบุคคลนั้น” ในขณะที่ PIPL นิยามข้อมูลส่วนบุคคลว่า “ข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่น ๆ ซึ่งสามารถใช้เพื่อระบุตัวบุคคลธรรมดาได้อย่างอิสระหรือรวมกับข้อมูลอื่น ๆ เพื่อระบุตัวตนของบุคคลธรรมดา”

  1. การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในประเทศ(Data Localization) :

PIPL กำหนดข้อกำหนดการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในประเทศที่เข้มงวดกว่า PDPA โดยกำหนดให้ข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติหรือผลประโยชน์สาธารณะต้องจัดเก็บไว้ในประเทศจีนและผ่านการประเมินความปลอดภัย ในขณะที่ PDPA ไม่มีข้อกำหนดเฉพาะในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในประเทศ

  1. การถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดน(Cross-border Data Transfer) :

PDPA กำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนทำการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลออกนอกประเทศไทย แต่ PIPL มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนและกำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูลทำการประเมินความปลอดภัยและได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อนที่จะถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลออกนอกประเทศจีน

  1. บทลงโทษ(Fines) :

PDPA มีโทษปรับสูงสุด 5 ล้านบาท (ประมาณ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และ/หรือจำคุกสูงสุดหนึ่งปีสำหรับการละเมิด ในขณะที่บทลงโทษของ PIPL นั้นสูงกว่าแบบมีนัย โดยค่าปรับสูงสุดคือ 50 ล้านหยวน (ประมาณ 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 5% ของรายได้ต่อปีขององค์กร หรือการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ แล้วแต่จํานวนใดจะสูงกว่า

         โดยรวมแล้ว ทั้ง PDPA และ PIPL มีเป้าหมายที่จะปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลโดยควบคุมการเก็บ รวบรวม ใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม กฎหมายเหล่านี้เป็นกฎหมายที่แตกต่างกันสองฉบับที่ตราขึ้นโดยสองประเทศที่แตกต่างกัน โดยมีขอบเขตและข้อกำหนดที่แตกต่างกันบางประการ

Image_20230315_102728_877-min
นายสุชเนศ จรรยา
ที่ปรึกษากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA Thailand
pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม