PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

Cyber Security หลาย ๆ ธุรกิจอาจจะมองเป็นเรื่องไกลตัว เพราะของแบบนี้ ต้องโดนกับตัวถึงรู้สึก !! ทว่าจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน ปัญหาความปลอดภัยของข้อมูล หรือการโดนโจมตีทางไซเบอร์ได้กลายเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก

จากข้อมูลของสำนักงานสืบสวนของสหรัฐอเมริกา (FBI) ระบุสถิติตั้งแต่ช่วง COVID-19 เริ่มระบาดเป็นต้นมา มีคดีอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมีการรายงานเพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับ 2 (อันดับ 1 คือ คดีฉ้อโกง) แต่ที่น่าตกใจคือ มีการกระทำผิดเพิ่มขึ้นสูงถึง 300 % เมื่อเทียบกับสถิติช่วงก่อนเกิด COVID-19 ทั้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามการก้าวกระโดดของเทคโนโลยี

ด้วยเหตุนี้ จะเห็นว่าธุรกิจหรือบริษัทต่างชาติจะให้ความสำคัญต่อเรื่อง Cyber Security มากเป็นพิเศษ เพราะไม่เพียงจะเกิดความเสียหายจากการโดน ‘แฮคเกอร์’ โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร หรือเทรนด์ที่ฮิตกันในช่วงหลังๆ มานี้ คือการใช้ Ransomware รู้จักกันในชื่อ ‘ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่’ รวมถึงการการใช้อีเมลหรือลิงค์ปลอมเพื่อล่อลวงข้อมูล หรือ Phishing ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า หากธุรกิจใดโดนโจมตี ก็มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะสามารถกู้ข้อมูลคืน แม้แต่จะจ่ายเงินให้แฮคเกอร์ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าแฮคเกอร์จะทำตามข้อตกลง

ดังนั้น หลายๆ ธุรกิจที่เคยโดนโจมตีทางไซเบอร์หากไม่มีข่าวใหญ่โตก็มักจะพยายาม ‘ปกปิด’ เพราะไม่ใช่เรื่องดีงามเลยที่อยู่ๆ ข้อมูลขององค์กร ข้อมูลทางธุรกิจ ข้อมูลลูกค้าจะถูกนำไปเปิดเผย หรือจำหน่ายใน Dark Web

ประกอบกับภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสหภาพยุโรป หรือ GDPR (General Data Protection Regulation) ที่กำหนดหลักปฏิบัติในกรณีที่บริษัทโดนโจมตี และข้อมูลส่วนบุคคลเกิดการรั่วไหล อาจนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวนมาก

นับเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่อาจจะพบได้ในประเทศไทยเร็วๆ นี้เช่นกัน เพราะภายใต้การประกาศใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act.) ก็มีการกำหนดข้อควรปฏิบัติและบทลงโทษไว้เช่นกัน และมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่องนี้ธุรกิจจึงต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ

 

‘ข้อมูลเกิดการรั่วไหล’ ตามกฎหมาย PDPA ควรจัดการอย่างไร

ตามบทบัญญัติของกฎหมาย PDPA ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ ในกรณีที่ธุรกิจเกิดการรั่วไหลของข้อมูล ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจบทบาทของตนเองก่อน หากธุรกิจของคุณเป็น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ก็มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้

1.จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และเมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีการปรับปรุงให้อุปกรณ์หรือเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคต่างๆ อยู่เสมอ และแน่นอนว่าหากไม่มีการจัดการใดๆ ในด้านนี้ แล้วเกิดการละเมิด คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก็อาจพิจารณาว่า ‘ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ’

2.ในกรณีที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่แหล่งอื่น ต้องมีการจัดดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม

3.มีระบบการตรวจสอบเพื่อลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นระยะเวลาการจัดเก็บ หรือมองว่าไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป หรือปฏิบัติตามคำร้องของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

4.หากเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลจะต้องแจ้งเหตุแก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายใน 72 ชม. นับตั้งแต่ทราบเหตุ แต่หากมองว่าเป็นความเสียหาย ‘ร้ายแรง’ อาจจะต้องมีแผนสำหรับการ ‘เยียวยา’ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ล่าช้า

ในทำนองเดียวกัน แต่สถานะของธุรกิจคุณคือเป็น ประมวลผลข้อมูล (Data Processor) ก็ต้องทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่หากถูกแฮคและข้อมูลเกิดการรั่วไหลขึ้นมา ดังนี้ :

1. หน้าที่ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยตามคำสั่งจากผู้ควบคุมข้อมูลเท่านั้น

2. มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม และเจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งแจ้งผู้ควบคุมข้อมูลหากเกิดการละเมิด

3. จัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนดเพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิง

 

จากกรณีศึกษาบริษัทเดินเรือทะเลโดนซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่

ถึงตรงนี้จะสังเกตว่า บทบทหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูล และผู้ประมวลผลข้อมูล ซึ่งมีส่วนสำคัญที่กฎหมายบัญญัติไว้ ‘กว้าง’ พอสมควร อาทิ กรณีที่ต้องมีการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม โดยคำว่า ‘เหมาะสม’ ในที่นี้อยู่ที่การตีความของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรืออาจต้องรอกฎหมายลูกมารองรับอีกที

อีกกรณีคือนิยามของ ‘ความเสียหายร้ายแรง’ และการ ‘เยียวยา’ ซึ่งเบื้องต้นธุรกิจเองอาจยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างกรณีบริษัทเดินเรือทะเลรายหนึ่ง โดน Ransomware เรียกค่าไถ่ แต่ด้วยเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายชื่อลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงมีการเจรจาจ่ายค่าเสียหายแก่แฮคเกอร์เพื่อประวิงเวลา แล้วให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีเร่งกู้ข้อมูลคืน

เคสนี้กว่าจะกู้คืนสำเร็จก็ใช้เวลา 7 วัน ทั้งยังประเมินความเสียหายได้ยาก คงไม่ต้องพูดถึงการเยียวยา เพราะบริษัทเดินเรืออ้างว่าสามารถกู้คืนได้หมด แต่ภายหลังก็เกิดเป็นคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากข้อมูลลูกค้า ข้อมูลธุรกิจที่มีการนำไปเปิดเผยในเว็บมืดเพื่อเป็นการอวดผลงานของเหล่าแฮคเกอร์ …เรียกว่าฟาดเคราะห์ไปขนานใหญ่เลยทีเดียว!

คำถามคือ กรณีแบบนี้ ธุรกิจจะมีหลักจัดการเพื่อให้การจัดการมีความเหมาะสมกับสถานการณ์และสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA ได้อย่างไร

คำตอบของกรณีศึกษาแบบนี้ อาจจะตอบได้แบบกลางๆ ว่า ในกรณีที่เจ้าของธุรกิจ พบการโจมตีทางไซเบอร์และเกิดการรั่วไหลหรือข้อมูลส่วนบุคคลสูญหาย หากเป็นผู้ควบคุมข้อมูลก็ต้องแจ้งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลฯ โดยไม่ชักช้า แต่หากเกิดกับผู้ประมวลผลข้อมูลก็แจ้งไปที่ผู้ควบคุมเป็นอันดับแรก

แต่หากในบริษัทมีตำแหน่ง DPO (Data Protection Officer) หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก็มอบหมายให้เป็นผู้แจ้งและติดตามความคืบหน้าแก่คณะกรรมการคุ้มครองฯ แต่ก่อนแจ้งควรมีการสรุปความเสียและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เพราะกฎหมายบอกให้แจ้งไม่เกิน 72 ชม.

ส่วนจะมีการดำเนินการเพื่อต่อรอง หรือกู้ข้อมูลคืนอย่างไรนั้น ก็สุดแล้วแต่กรณีไป แต่โดยส่วนใหญ่ ธุรกิจจะมีการสำรองข้อมูลอยู่เสมอ ประเด็นจึงย้อนกลับมาที่การดำเนินการของธุรกิจว่ามี ‘ความปลอดภัย’ และ ‘เหมาะสม’ เพียงพอจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและการโจมตีทางไซเบอร์ที่สถิติเพิ่มมากขึ้นทุกปีหรือไม่

ทั้งนี้ กรณีการโดนโจมตีทางไซเบอร์ก็อาจมีเฉพาะการชดใช้ค่าสินไหม หรือการเยียวยา เพราะภายใต้หลักปฏิบัติของกฎหมาย PDPA คือ ให้บรรดาธุรกิจต่างๆ มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ‘อย่าระมัดระวัง’ แต่ก็อาจมีอีกหลายๆ ประเด็นที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นกรณีศึกษา ซึ่งเราจะนำมาเสนอในแง่มุมต่าง ๆ ต่อไป เพราะอย่างที่ระบุไว้ว่า กฎหมายใหม่นี้ค่อนข้างกว้าง และมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เจ้าของธุรกิจจะต้องทำความเข้าใจอีกมาก

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม