PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand
   ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องราวที่ทำเอาหัวใจแฟน ๆ นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินาและทีมชาติฝรั่งเศสลุ้นกันเป็นอย่างมาก เพราะสองสตาร์ดังจากสโมสรปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง กัปตันผู้เป็นทุกอย่างของทัพฟ้าขาว “ลิโอเนล เมสซี่” และว่าที่แข้งซุป’ตาร์เบอร์ 1 ของโลกคนต่อไปจากทัพตราไก่อย่าง “คิลิยัน เอ็มบัปเป้” ได้มาเปิดศึกสร้างประวัติศาสตร์ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด  โดยทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลกหนนี้ไปครองด้วยการชนะการดวลจุดโทษ ซึ่งอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้ไม่ได้อยู่ที่การรับถ้วยของเมสซี่แต่เพียงเท่านั้น เพราะเขากลับได้ใจคนรักครอบครัวไปเต็ม ๆ เมื่อ “ลิโอเนล เมสซี่” ที่ได้ชื่อว่าเป็นแข้งที่เก่งกาจที่สุดในโลกด้วยรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัย ยังต้องรับบทช่างภาพจำเป็นถ่ายรูปให้ภรรยาที่ชูถ้วยแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2022 เป็นภาพที่เห็นแล้วก็สร้างความประทับใจให้กับใครหลายคน

แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/2581460

     วันนี้เราจะมาเปิดประเด็นถึงเรื่องการถ่ายภาพในสนามกีฬา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นกีฬาใด ๆ หรือแม้กระทั่งในที่สาธารณะก็คงหลีกหนีไม่พ้นเรื่องของการถ่ายภาพและวิดีโอเนื่องจากตอนนี้ในประเทศไทยมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกมาแล้วตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 แต่ก็มีข้อที่ทำให้ถกเถียงเป็นประเด็นอยู่มาก เรื่องของการถ่ายภาพติดบุคคลอื่นในที่สาธารณะว่าสามารถทำได้หรือไม่ ผิด PDPA หรือไม่?

   ก่อนอื่นผู้อ่านทุกท่านต้องเข้าใจก่อนว่า พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคนโดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นคือข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้ระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นเลขประจำตัวประชาชน, ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, ข้อมูลทางการเงิน, เชื้อชาติ, ศาสนา, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม หรือแม้กระทั้งข้อมูลสุขภาพ แต่การถ่ายภาพหรือวิดีโอของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ในมุมของ PDPA นั้นจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยการถ่ายภาพมีหลายเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาตามแต่ละกรณี

      กรณีที่ 1 ถ่ายภาพหรือวิดีโอเพื่อประโยชน์ส่วนตน ถ่ายภายในครอบครัวเพื่อนฝูง

      อ้างอิงจากมาตรา 4(1) มีการระบุเอาไว้ว่า “การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อกิจกรรมในครอบครัวของบุคคลนั้นเท่านั้น” ดังนั้นในกรณีนี้ เราจึงสรุปได้ว่าสามารถทำได้โดยไม่ผิด PDPA โดยในกรณีนี้จะรวมไปถึงเรื่องการติดกล้องวงจรปิดด้วยเช่นกัน

      กรณีที่ 2 การถ่ายภาพหรือวิดีโอตามขอบเขตสัญญาจ้าง

      ในกรณีนี้ขอยกตัวอย่าง อาชีพช่างภาพในสนามกีฬาที่คอยถ่ายภาพและวิดีโอของผู้เล่นในสนามและภาพบรรยากาศโดยรอบ, กรณีที่ช่างภาพถูกจ้างไปถ่ายภาพในงานวิวาห์ หรืองานอื่น ๆ ในที่สาธารณะซึ่งในกรณีนี้จะสามารถอ้างอิงได้จากมาตรา 24(3) ที่ระบุไว้ว่า “เป็นการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น”

      กรณีที่ 3 การถ่ายภาพหรือวิดีโอตามขอบเขตอำนาจของกฎหมาย

      ยกตัวอย่าง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าถ่ายภาพที่เกิดเหตุการปล้นชิงทรัพย์ห้างทอง และมีการบันทึกภาพถ่ายชี้ตัวผู้ก่อเหตุได้ โดยในกรณีจะถือเป็นการปฏิบัติที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายตามมาตรา 24(4) “เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” จึงสามารถกระทำได้โดยไม่ผิด PDPA

       กรณีที่ 4 การถ่ายภาพหรือวิดีโอตามจริยธรรมแห่งการประกอบอาชีพ

      กรณีนี้ค่อนข้างมีความชัดเจน โดยเฉพาะวิชาชีพที่จะต้องมีการปฏิบัติหน้าที่ เช่น อาชีพผู้สื่อข่าวเราจะเห็นได้ว่านักข่าวสามารถถ่ายภาพบุคคลต่าง ๆ ลงหนังสือพิมพ์ได้โดยไม่ผิด PDPA เพราะในกฎหมายตามมาตรา 4(3) ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “บุคคลหรือนิติบุคคลใดซึ่งใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวมไว้เฉพาะ เพื่อกิจการสื่อมวลชน งานศิลปกรรม หรืองานวรรณกรรมอันเป็นไปตามจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ หรือเป็นประโยชน์สาธารณะสามารถกระทำได้ภายใต้ พ.ร.บ. ฉบับนี้

     ดังนั้น เราจึงสรุปแบบสั้น ๆ ได้ว่า การถ่ายภาพติดบุคคลอื่นในที่สาธารณะไม่ได้ผิดกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเสมอไป หากเป็นการถ่ายภาพหรือวิดีโอเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ที่ถูกถ่าย ถ้าเป็นนำภาพไปใช้เชิงพาณิชย์จำเป็นต้องได้รับความยิมยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐจะได้รับการยกเว้นต่อเมื่อเป็นการสืบหาหลักฐานเพื่อการสืบสวนภายในขอบเขตของกฎหมายที่กำหนด เช่นเดียวกับสื่อมวลชนผู้สื่อข่าวที่ได้รับการยกเว้นกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ก็ควรอยู่ในกรอบมาตรฐานของจริยธรรมอาชีพหรือประโยชน์สาธารณะเท่านั้น
Image_20230315_102728_877-min
สุชเนศ จรรยา
ที่ปรึกษากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จาก PDPA Thailand
pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม