PDPA Thailand

PDPA Thailand
PDPA Thailand

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ Personal Data Protection Act (PDPA) ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของบุคคลอันมีสิทธิในข้อมูลส่วนตัวของตนเอง สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้หลัก ๆ เลยก็คือ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ก่อนจะเก็บ รวบรวม หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลของใครก็ตามไปใช้ ผู้ควบคุมข้อมูล (ไม่ว่าจะในฐานะบุคคลคือนิติบุคคลก็ตาม) ต้องทำการขอ ความยินยอม (Consent) จากบุคคลเสียก่อนครับ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวังโทษทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครอง

การขอความยินยอม

พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) มาตรา 19 ระบุไว้ว่า

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้หากเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้กระทำได้”

และเพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมาย แบบฟอร์มการขอความยินยอม (Consent Form) จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • กระทำโดยชัดแจ้ง อาจทำผ่านรูปแบบเอกสารหนังสือให้เซ็นต์ หรือทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (หน้าเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ฯลฯ)
  • แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้อย่างละเอียด
  • แยกส่วนออกจากข้อความอื่นอย่างชัดเจน รูปแบบข้อความเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย ภาษาอ่านง่าย
  • ไม่หลอกลวงให้เข้าใจผิด
  • ไม่มีเงื่อนไขในการให้ความยินยอม (ผู้ควบคุมข้อมูลต้องคำนึงถึงความเป็นอิสระของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล)

หากการขอความยินยอมไม่เข้าเกณฑ์ตรงกับลักษณะที่ระบุอยู่ข้างต้นนี้ ให้ถือว่าไม่มีผลผูกพันกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นผู้ควบคุมข้อมูลไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือถ้าทำก็จะมีความผิดนั่นเอง

การ “ถอน” ความยินยอม

PDPA เป็นกฎหมายที่คำนึงถึงข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ จึงอนุญาตให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถถอนความยินยอมได้โดยง่าย ยกเว้นมีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมตามกฎหมายหรือสัญญาโดยทางฝั่งผู้ควบคุมข้อมูลจะต้องดำเนินการให้บุคคลสามารถจัดการถอนความยินยอมได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในวงการต่าง ๆ ว่าจะออกแบบแนวทางออกมาอย่างไรให้สอดคล้องกับกฎหมายในจุดนี้ นอกจากนั้นการถอนความยินยอม:

  • ไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหน้านั้น ตามที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ
  • ผู้ควบคุมข้อมูลต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมดังกล่าว (ถ้ามี)

การขอความยินยอมจากผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ

นอกเหนือจากการขอความยินยอมและการถอนความยินยอมของบุคคลทั่วไปแล้ว PDPA ยังมีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงกลุ่มพิเศษทางสังคมด้วย นั่นก็คือผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งมีแนวทางในการขอความยินยอมเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของคนกลุ่มนี้ ดังนี้

  • ผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ให้ขอความยินยอมจากผู้ปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
  • ผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะสามารถให้ความยินยอมโดยลำพังได้ หากเข้าข่ายตามมาตราที่ 22, 23 และ 24 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (อันว่าด้วยเรื่องการใด ๆ ที่ผู้เยาว์สามารถกระทำเองโดยลำพัง) นอกเหนือจากนั้น ให้ขอความยินยอมจากผู้ปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ประกอบด้วย
  • คนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ
  • คนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ

เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปกติอย่างการแพร่ระบาดของ COVID-19 เข้ามาแทรก ส่งผลการบังคับใช้ของ PDPA ถูกยกเว้น และกำหนดบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง 1 มิถุนายน 2565 ในฐานะพลเมืองไทย เราจะต้องปฎิบัติตนตามกฎหมาย และมีหน้าที่ที่จะต้องรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายด้วย (เพราะการที่ผิดกฎหมายแล้วอ้างว่าไม่รู้นั้นไม่สามารถกระทำได้) เราจึงต้องศึกษาเนื้อหาของ พ.ร.บ. ฉบับนี้เอาไว้เพื่อที่จะได้ปฎิบัติตนได้อย่างสอดคล้องกับกฎหมายนั่นเอง

pdpa guru
dpo in action อบรม pdpa dpo
DPO ภาครัฐ PDPA
หลักสูตร PDPA in Action
DPAC อบรม PDPA Internal Audit
PDPA Guru Google Forms EP8
DPOinActionรุ่น19 1200x300
DPO in Action TU - 1200x300
Advanced PDPA in Action สำหรับภาคเอกชน
Banner DPAC 1200x300
dpo รวม