ธปท. ชี้ขาด แมคคาเล กรุ๊พ-อิออน ไม่ออกใบแจ้งหนี้ อีกทั้งละเมิดด้วยการเปิดเผยข้อมูลลูกค้า

แชร์

อ่าน

ครั้ง

โดย : pornpilast.su

ธปท. ชี้ขาด แมคคาเล กรุ๊พ-อิออน ไม่ออกใบแจ้งหนี้ อีกทั้งละเมิดด้วยการเปิดเผยข้อมูลลูกค้า

แชร์

อ่าน

ครั้ง

โดย : pornpilast.su

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2565 – นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผย ธปท. เองเป็นผู้กำกับดูแล การให้บริการด้านการเงิน จึงได้มีการสุ่มตรวจสอบธุรกรรม การบริหารจัดการ และมีคำสั่งเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้า รวมถึงได้ปรับตามเกณฑ์ และกล่าวโทษกรณีผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ จนส่งผลเสียต่อผู้ใช้บริการทางการเงิน 

จากข้อมูลการร้องเรียนของประชาชนและการตรวจสอบของ ธปท. พบว่าในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ให้บริการทางการเงิน 2 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ทีมีการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้าน Market Conduct ต่อมาจึงได้มีการประกาศจากกระทรวงการคลัง และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีข้อสรุปดังนี้

  • บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) ไม่ออกใบแจ้งหนี้ (เอกสารแสดงรายการใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะต้องชำระ หรือมีการเรียกเก็บ) ซึ่งเอกสารเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องส่งให้ลูกค้าก่อนถึงวันครบชำระ อีกทั้งยังไม่ส่งหลักฐานการชำระเงิน โดยความผิดเหล่านี้ทางศาลอาญามีนบุรีจึงได้มีคำพิพากษาว่าทางบริษัท จะต้องถูกปรับเป็นเงิน 248,000 บาท และกรรมการผู้มีอำนาจ 284,500 บาท (โดยประมาณ)
  • บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ไม่มีมาตรการที่ดีด้านดูแลข้อมูลลูกค้า รวมทั้งไม่ควบคุมการดูแล และปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ข้อมูลของลูกค้าหลุดไปยังบุคคลอื่นจนได้มีการนำไปใช้โดยส่วนตัว คือการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย โดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ซึ่งในปัจจุบันทางบริษัทอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของพนักงานสอบสวน
 

ทั้งนี้ ธปท. ขอย้ำถึงความสำคัญของการให้บริการที่เป็นธรรม และถูกต้องตามหลักเกณฑ์ต่อผู้ใช้บริการทางการเงิน อีกทั้งตอนนี้ได้มีการสั่งการให้ทั้ง 2 บริษัทปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย และประกาศที่เกี่ยวข้องแล้ว 

 

 

ข้อสังเกต  หลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่จะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากมีสภาพการณ์ที่คล้ายคลึงกับองค์กรที่ 2 ตามข่าว องค์กรอาจได้รับโทษกฎหมาย PDPA เพิ่มขึ้นอีก 1 กระทง ซึ่งร้ายแรงกว่าถูกปรับ อาจมีสิทธิ์โดนโทษถึงจำคุก! เพราะข้อมูลของลูกค้าหลายประการอาจเข้าข่ายเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ฉะนั้นองค์กรจึงควรเตรียมพร้อม รับมือ และปฎิบัติงาน ให้ถูกต้องตามกฎหมายที่สุดเพื่อเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น (ต่อตัวเจ้าของข้อมูลและองค์กรเอง)

 

Share :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ม.อัสสัมชัญ จับมือ ดีบีซี กรุ๊ป ส่งเสริมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล วงการการศึกษาและภาคเอกชน